EA-NEX ขึ้นเด่น ได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐหนุนใช้ E-Bus, E-Truck

HoonSmart.com>>หุ้น EA-NEX ปรับขึ้นเด่น ได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการของรัฐที่สนับสนุนการใช้ E-Bus และ E-Truck และผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ระดับเซลล์ จากเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เล็งหนุนยอดขายปี 67 เชียร์”ซื้อ”EA ให้เป้า 70 บาท และ NEX ให้เป้า 12 บาท

เมื่อเวลา 15.23 น.หุ้น EA พุ่ง 5.19% มาที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 572.74 ล้านบาท
หุ้น NEX พุ่ง 8.72% มาที่ 10.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท มูลค่าซื้อขาย 174.05 ล้านบาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มองเป็นบวกต่อ NEX และ EA ที่จะได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการของรัฐที่สนับสนุนการใช้ E-Bus และ E-Truck และผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ระดับเซลล์ เนื่องจากเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (E-Bus และ E-Truck) รายใหญ่ของไทย ขณะทีอาจมีความเสี่ยงเล็กน้อย จากการนำเข้า E-Bus จากจีนที่ถูกลงด้วย ทำให้คนซื้อมีการเลือกมากขึ้น โดยบอร์ด EV ประเมินว่ามาตรการนี้จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคัน ซึ่งจะช่วยหนุนให้มีการผลิตและส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์มากขึ้นในปี 67-68

ทั้งนี้ ในปี 66 ประเมินว่า NEX จะมีการส่งมอบ E-Bus และ E-Truck ได้ราว 1.5-1.8 พันคัน ขณะที่มาตรการดังกล่าวจะช่วยหนุนให้ยอดขายในปี 67 ยังเติบโตได้หลังจากการส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้าให้กับ TSB ทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกปี 67 โดยในส่วนของโรงงาน AAB (EA ถือหุ้น 55%, NEX ถือหุ้น 45%) มีกำลังการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ 9 พันคัน/ปี ซึ่งจะเพียงพอรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นได้

พร้อมแนะนำ”ซื้อ” NEX ราคาเป้าหมาย 12 บาท สำหรับ EA คาดได้ประโยชน์เพิ่มเติมจากนโยบายสนับสนุนผู้ผลิตแบตเตอรี่ (ESS) ด้วย โดยประเมินว่าจะส่งมอบรถ EV ได้ไม่ต่ำกว่า 3.5-3.8 พันคัน ประเมินกำไรปี 66/67 อยู่ที่ 8.2/9.2 พันล้านบาท โต +8%/+13% YoY ปัจจุบันแนะนำ “ซื้อ” EA ที่ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 70 บาท

ที่ประชุมบอร์ด EV วานนี้ ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ EV เชิงพาณิชย์ (E-Bus และ E-Truck) และผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ระดับเซลล์ เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยมลภาวะในภาคธุรกิจ ได้แก่ 1) อนุญาตบริษัทหรือท้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการซื้อ E-Bus และ E-Truck โดยไม่กำหนดเพดานราคาขั้นสูง กรณีซื้อรถที่ผลิต/ประกอบในประเทศจะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า และ 1.5 เท่ากรณีจากต่างประเทศ โดยมีผลถึงสิ้นปี 68

2) สนับสนุนผู้ผลิตแบตเตอร์รี่สำหรับ EV และระบบกักเก็บพลังงาน ESS เพื่อดึงดูดการผลิตต้นน ้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเติมเต็มห่วงโซ่อุปทาน EV ไทยโดยผู้ลงทุนสามารถขอรับสิทธิประโยชน์และเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศฯ ภายใต้บีโอไอ ซึ่งจะพิจารณากำหนดรายละเอียดของหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติต่อไป