TU บวก 1.37% 4 โบรกฯมองบวกถอนลงทุน Red Lobster

HoonSmart.com>>หุ้น TU บวก 1.37% สวนตลาดโดยรวม เทรดคึกคัก 4 โบรกฯเชียร์”ซื้อ”หลังประกาศถอนลงทุน Red Lobster (RL) ทั้งหมด และจะบุ๊คด้อยค่าเงินลงทุนทั้งก้อนราว 1.85 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 4/66 ช่วยคลาย overhang จากนี้ไปกำไร TU จะดีขึ้นมากหลังไม่ต้องรับรู้ RL อีกต่อไป และมองบวกต่อแผนซื้อหุ้นคืนด้วย พร้อมขยับราคาเป้าหมายขึ้น

เมื่อเวลา 11.08 น.หุ้น TU บวก 1.37% มาที่ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,422.12 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 14.40 บาท ขึ้นสูงสุด 15.20 บาท และต่ำสุด 14.20 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ”ซื้อ”หุ้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) แจ้งตลาดฯ 2 เรื่อง 1.ถอนลงทุน Red Lobster (RL) ทั้งหมด และจะบุ๊คด้อยค่าเงินลงทุนทั้งก้อนที่ 1.85 หมื่นล้านบาท เข้าไตรมาส 4/66 จะทำให้ทั้งปี 66 พลิกเป็นขาดทุนราว 1.4 หมื่นล้านบาท และ 2. ประกาศซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น (4.3% ของหุ้นทั้งหมด) มูลค่าเงินไม่เกิน 3.6 พันล้านบาท ระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 20 ก.พ.-30 มิ.ย.

สาเหตุของการถอนลงทุน RL เพราะประสบผลขาดทุนมาหลายปี จึงมองบวกต่อกำไรปี 67 เป็นต้นไป เพราะ 1. จะไม่มีผลขาดทุนของ RL ถ่วงอีกต่อไป 2. ปลดล็อกความกังวลเรื่องเพิ่มทุน และ 3. หากสามารถขาย RL ได้ในช่วงถัดไป อาจทำให้ TU รับรู้การกลับรายการดังกล่าวในอนาคต เบื้องต้นหลังถอดขาดทุน RL ออก ประมาณการกำไรปี 67 จะ +19% เป็น 6.2 พันล้านบาท ทำให้ราคาเป้าหมายปรับขึ้นเป็น 20 บาท (เดิม 18 บาท) หากราคาหุ้นปรับลงตามการด้อยค่า RL นี้

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้น TU มีมุมมองเป็นบวกต่อการประกาศแผนดังกล่าว แม้การบันทึก impairment จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 66 พลิกขาดทุนอยู่ที่ราว -1.4 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันกำไรสุทธิ 4.9 พันล้านบาท (เทียบกำไรสุทธิปี 65 ที่ 7.1 พันล้านบาท) แต่ธุรกรรมดังกล่าวเป็นรายการ one-time ขณะที่การหยุดรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้นราว +14% เป็น 6.3 พันล้านบาท อีกทั้งมองว่าแผนถอนการลงทุนจะช่วยคลาย overhang และทำให้บริษัทสามารถโฟกัสธุรกิจหลักได้มากขึ้น เนื่องจากประเมินว่า Red Lobster มีโอกาสจะขาดทุนต่อเนื่องอย่างน้อยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว

นอกจากนี้ มองเป็นบวกต่อแผนซื้อหุ้นคืนเช่นกัน ซึ่งจะ imply ราคาซื้อหุ้นคืนที่ 18 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบัน +23% ทำให้จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น โดยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการปี 66-67 จากปัจจุบันคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 4.9 พันล้านบาท/5.5 พันล้านบาท (-32% YoY/+14% YoY) สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/66 เบื้องต้นประเมินกำไรปกติ (ไม่รวม one-time impairment) จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง QoQ และเป็น peak ของปี หนุนโดยธุรกิจ Ambient seafood และ PetCare จากการกลับมาเติมสต็อกของลูกค้าและต้นทุนทูน่าลดลง ทั้งนี้ มีโอกาสปรับราคาเป้าหมายปี 67 ขึ้นจากปัจจุบัน 18.50 บาท

บล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อ”หุ้น TU ประกาศแผนถอนการลงทุนจากการถือหุ้น 49% ใน Red Lobster(RL)ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารทะเล ซึ่งในขณะที่บริษัทกําลังมองหาผู้ซื้อจะทําการ write down เงินลงทุนทั้งหมดใน RL ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1.85 หมื่นนล้านบาท และจะบันทึกผลขาดทุนที่ไม่ใช่เงินสดและเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 4/66 ถึงแม้จะรับรู้ผลขาดทุน แต่ผู้บริหารคาดว่าจะยังจ่ายเงินปันผลได้ตามปกติ (ต้องรอการอนุมัติยกเว้นเงื่อนไขจากธนาคาร และผู้ถือหุ้นกู้ก่อน)ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 0.57 บาท/หุ้น สําหรับปี 66 จึงมองบวกกับการดําเนินการครั้งนี้ เพราะการ writedown เงินลงทุนจะทําให้ TU ไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนจาก RL ซึ่งคาดไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท อีกตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป ซึ่งจะทําให้กําไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 22.5% ในปี 67 และ 18.2% ในปี 68 ดังนั้นจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 20 บาท

บล.โกลเบล็ก แนะนำ”ทยอยสะสม”หุ้น TU หลังการขายเงินลงทุนใน เรด ล็อบสเตอร์ จะทำให้ TU ไม่จำเป็นต้องรับรู้ผลขาดทุนปีละ 600-1,000 ล้านบาท อีกต่อไป โดยมองประเด็นดังกล่าวจะมีการตั้งด้อยค่าคิดเป็น 3.8 บาท/หุ้น ซึ่งจะมีการบันทึกเข้ามาในไตรมาส 4/66 เป็นรายการ One time