TEAMG-DITTO กำไรอื้อ นำทีมขาใหญ่ เทก NETBAY ราคาถูก

HoonSmart.com>>”พิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์” ซีอีโอ เน็ตเบย์ (NETBAY) จะขายหุ้นทั้งหมด 50% “ทีม คอนซัลติ้งฯ” (TEAMG) นำกลุ่มนักลงทุน เช่น ORI  ขาใหญ่ เสี่ยปู่ เข้าซื้อบิ๊กล็อต 25.15% มูลค่า 855 ล้านบาทแล้ว ส่วนที่เหลือ 24.90% บริษัท ดิทโต้ฯหรือ DITTO พร้อมซื้อ รอผู้ถือหุ้นอนุมัติ  จ่ายแค่หุ้นละ 17 บาท ต่ำกว่าในตลาดตั้ง 44.7% ปิดที่ 24.60 บาท 

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2567 หุ้นบริษัท เน็ตเบย์ (NETBAY) มีการซื้อขายบิ๊กล็อต จำนวน 50,299,990 หุ้น มูลค่าประมาณ  855 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 17 บาท/ หุ้น ต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 44.7% ล่าสุด ปิดที่ 24.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาทหรือ+5.13% มูลค่าซื้อขาย 889.28 ล้านบาท

นางกอบกาญจนา วีระพงษ์ประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตเบย์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ว่า นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ รองประธานกรรมการ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NETBAY จะขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 50.05% ของทุนชำระแล้ว ในราคาไม่เกิน 17 บาท มูลค่าทั้งสิ้น 1,701,699,830 บาท  เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้แบ่งขายบิ๊กล็อตจำนวน 25.15% คงเหลือจำนวน 24.90% เท่ากับ 49.8 ล้านหุ้น

สำหรับกลุ่มผู้ซื้อหุ้นในส่วน 25.15% นำโดย บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) จำนวน 12 ล้านหุ้น หรือ 6% บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) 5.88 ล้านหุ้นหรือ 2.94% นางกอบกาญจนา ซื้อ 5 ล้านหุ้น หรือ 2.50% นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ ซื้อ 4 ล้านหุ้น หรือ2%

ส่วนหุ้นของนายพิชิต ที่เหลือจำนวน 49.8 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.90% บริษัท ดิทโต้(ประเทศไทย) หรือ DITTO จะเข้าลงทุนภายหลังได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ DITTO และดำเนินการภายใต้เงื่อนไขบังคับก่อน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ก่อนทำบิ๊กล็อต มีนาย พิชิต ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ตามด้วย บริษัท ไทยประกันชีวิต ถือ 8,428,400 หุ้น สัดส่วน 4.21% และบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือ 5,546,855 หุ้น สัดส่วน 2.77%

ทั้งนี้ผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ ไม่ได้มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในด้านการแข่งขันทางธุรกิจกับบริษัทฯ และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันจะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่จะนำไปสู่การให้บริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น

บริษัทเน็ตเบย์ ประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้คิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนา Digital Business Technology Platform ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Business Services) และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นแก่ผู้ใช้ในรูปแบบการให้บริการ (SaaS: Software as a Service) อย่างครบวงจรระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจและภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคเอกชนและประชาชนหรือผู้บริโภค (B2C)  ด้านผลดำเนินงาน บริษัทมีกำไรอย่างต่อเนื่อง งวด 9 เดือนปี 2566 มีกำไรทั้งสิ้น 137.64 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 2565 มีกำไรทั้งสิ้น 169.74 ล้านบาท