ดาวโจนส์ปิดลบ 79 จุด บอนด์ยีลด์ลดลงต่ำกว่า 4.2%

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 79 จุด ดัชนี S&P500 ปรับลดลงเล็กน้อย นักลงทุนประเมินทิศทางดอกเบี้ยและแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังรายงานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานชะลอตัวลง บอนด์ยีลด์ลดลงต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 4.2% แรงซื้อกลุ่มเทคหนุนดัชนี Nasdaq บวก 44 จุด ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” WTI ลดลง 0.72 ดอลลาร์ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 5ธันวาคม 2566 ที่ 36,124.56 จุด ลดลง 79.88 จุด ลดลง 0.22% ขณะที่นักลงทุนประเมินทิศทางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังการรายงานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานชะลอตัวลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.18 จุด ลดลง 2.60 จุด, -0.06%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,229.91 จุด เพิ่มขึ้น 44.42 จุด, +0.31%

ตลาดปรับตัวลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงต่ำกว่าระดับสำคัญที่ 4.2% หลังข้อมูลแสดงว่าตลาดแรงงานชะลอตัวลง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น โดยหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 2.33% หุ้นแอปเปิ้ล เพิ่มขึ้น 2.1% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นเทสลา เพิ่มขึ้น 1.3%

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงาน รายงานผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS)เดือนตุลาคมว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงจาก 9.35 ตำแหน่งในเดือนกันยายนมาที่ 8.73 ล้านตำแหน่งและต่ำกว่า 9.30 ที่นักวิเคราะห์คาด และต่ำกว่า 10.47 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเปิดรับสมัครงานลดลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานชะลอตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้อุปสงค์อ่อนตัวลง

แซม สโตวัล หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและอุปสงค์ชะลอตัว บริษัทต่างๆ ก็ลดการรับสมัครงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ธนาคาร
กลางสหรัฐ(เฟด)ต้องการ และเฟดน่าจะเสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเสร็จแล้ว และคำถามเดียวที่มีก็คือ เมื่อไรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธันวาคม และให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสสอง 2024

เว่ย ลี หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกของ BlackRock Investment Institute คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า แต่จำนวนครั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะน้อยลงบ้างเมื่อเทียบกับวัฏจักรเศรษฐกิจแบบเก่า หรือภาวะถดถอยแบบเก่า

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่มีการรายงานเมื่อวานนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงานดัชนีภาคบริการเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นมาที่ 52.7 จาก 51.8 ในเดือนตุลาคม และสูงกว่า 52 ที่นักวิเคราะห์คาด

ริส วิลเลียม หัวหน้านักกลยุทธ์ของ Spouting Rock กล่าวว่า การลดลงของตลาดวันนี้เป็นเพียงการขายออกไปบ้างจากที่ปรับขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการปรับขึ้นของตลาดได้จบรอบแล้ว

หุ้น CVS Health Corp บริษัทด้านการดูแลสุขภาพและเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3.7% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปีบัญชี 2024 สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นเยอรมนีปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นกลุ่มประกัน ขณะที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวของภาคบริการในเดือนพฤศจิกายนคลี่คลาย

ตลาดได้รับแรงหนุนจาก ข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเป็นบวกนอกภูมิภาค ซึ่งทำให้เกิดความคาดหวังอย่างต่อเนื่องว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีหน้า

นอกจากนี้นางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หลังจากที่เงินเฟ้อลดลงมากเกินคาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลงอย่างมาก

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนำการปรับตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 1.8%

หุ้น HSBC และหุ้น Prudentialของอังกฤษซึ่งพึ่งพาตลาดจีนปรับตัวลง หลังมูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของจีน

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 467.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด, +0.40%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,489.84 จุด ลดลง 23.12 จุด, -0.31%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,386.99 จุด เพิ่มขึ้น 54.40 จุด, +0.74%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,533.11 จุด เพิ่มขึ้น 128.35 จุด, +0.78%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 0.72 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.83 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 77.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล