“ฟิลลิป”ส่ง”Tax Saving Box” ขึ้นออนไลน์ จับกลุ่มรอเกษียณ-คนรุ่นใหม่ใช้สิทธิภาษี

HoonSmart.com>> 2 บริษัทในกลุ่มฟิลลิปแคปปิตอล เปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์การออมเพื่อการลดหย่อนภาษีแนวใหม่”Tax Saving Box”ที่มีกองทุนรวม กับ ประกันชีวิต รวมอยู่ในแพคเกจ SSF สำเร็จรูป จับกลุ่มลูกค้า 4 สไตล์ ทั้งแบบปกป้องเงินต้น แบบสมดล นักลงทุนเน้นคุณค่า และเมกกะเทรนด์ ทั้งในและต่างประเทศ ลดความผันผวนเงินต้นเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

เข้าโค้งสุดท้ายกับการช็อปผลิตภัณฑ์การออมเงินเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี วันนี้แนะนำ 4 ผลิตภัณฑ์จาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บริษัทฟิลลิป ประกันชีวิต ที่ร่วมกันออก “Tax Saving Box”โดยนำประกันชีวิตแบบชำระเบี้ยครั้งเดียวคุ้มครองชีวิต 10 ปี ได้สิทธิลดหย่อนสูงสุด 100,000 บาท มาจับคู่กับ กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund : SSF) ที่ต้องถือลงทุน 10 ปี ของ 4 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ได้สิทธิภาษี 200,000 บาท รวมแล้วจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี 3 แสนบาท ถือว่าเป็นการจัดแพคเกจการออมแนวใหม่

จากรูปแบบเดิมๆ ที่เวลาต้องการซื้อกองทุน ก็ต้องไปนั่งหาว่าจะเลือกบลจ.หรือธนาคารไหนดี กองไหนดี หรือ จะซื้อประกันชีวิตกับบริษัทไหน แบบไหน และจะซื้อกี่ปีดี ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในการเลือก หรือถ้าจะออมผ่านประกันชีวิตควบการลงทุนหรือยูนิตลิงค์ ก็ลดหย่อนภาษีได้นิดเดียว แต่ “Tax Saving Box”คัดเลือกมาให้เสร็จบนเว็ปไซต์ของบริษัท จะเข้าไปช็อปเมื่อไหร่ เวลาไหน ก็ได้

สำหรับแบบประกันชีวิต ที่นำมาจัดแพคเกจ คือ แบบ แม็กซ์ เท็น วัน 10/1 แบบชำระเบี้ยครั้งเดียว คุ้มครองชีวิต 10 ปี โดยมีเงินคืนปีละ 1% ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ถึง ปีที่ 9 เมื่อครบปีที่ 10 รับเงิน 101% ในกรณีอยู่ครบสัญญา จะได้รับผลประโยชน์รวม 110% แต่ถ้าเสียชีวิตก่อน ผู้รับประโยชน์จะได้รับเงินทดแทน 110%

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการบริหาร บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) อธิบายว่า “Tax Saving Box”ได้มีการคัดสรรธีมการลงทุนที่เหมาะสมกับสโตล์ในการลงทุนผ่าน Persona Theme 4 รูปแบบ ตั้งแต่คนที่ชอบความเสี่ยงต่ำ ปานกลาง ถึงสูง เพื่อเป็นทางเลือกในการเพิ่มโอกาสให้พอร์ตลงทุนเติบโต การจับกองทุนรวม SSF และประกันชีวิต มารวมกันเป็นแพคเกจ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองและการลงทุนด้วย ได้ทั้งความมั่นคงและความมั่งคั่ง โดยลงทุนขั้นต่ำ 6 หมื่นบาท ซึ่งจะถูกแยกไปซื้อประกันชีวิต 4.5 หมื่นบาท และ กองทุนรวม 1.5 หมื่นบาท และสูงสุด 3 แสนบาทเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องลงทุนต่อเนื่องติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี เหมือนการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF)แต่ถ้าอยากจะลงทุนต่อเนื่องก็สามารถทำได้

นายธฤทธิ์ พรหมนารถ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟิลลิปประกันชีวิต กล่าวว่า การนำประกันชีวิตชำระครั้งเดียวที่มีการการันตีผลประโยชน์ชัดเจน มารวมกับ กองทุนรวม SSF ที่เป็นโลกของการลงทุน จัดเป็นแพคเกจเพราะเป็นสินค้าที่ลูกค้าเข้าใจง่าย ถือลงทุน 10 ปีเหมือนกัน และขายผ่านเว็ปไซต์ของบริษัท เพราะลูกค้าเข้าถึงง่าย ใช้เวลาไม่นาน เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป นิยมทำธุรกรรมต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยทีมวิจัยผลิตภัณฑ์จะเน้นการออกกรมธรรม์ที่มีความแตกต่างจากตลาด และนำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยบริษัทคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กับทั้ง 2 บริษัท และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าเก่าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์การลดหย่อนภาษีด้วย

นายบดินทร์ภัทร์ หยิบมานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า “Tax Saving Box” มี 4 รูปแบบ ประกอบด้วย

แบบ Stable Package จะคู่กับ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น ชนิดเพื่อการออม ความเสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.77% เน้นสไตล์การลงทุนแบบปลอดภัย โดยลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน หรือเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ โดยจะลงทุนต่างประเทศไม่เกิน 50% ของ NAV ซึ่งจะคงอายุตราสารเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักของกองทุนไม่เกิน 1 ปี เน้นเงินต้นปลอดภัย และมีความผันผวนของ NAV ที่ต่ำ เหมาะสำหรับกลุ่มนักลงทุนที่เตรียมตัวเกษียณ หรือมุ่งเน้นที่ผลประโยชน์จากการประหยัดภาษีเป็นหลัก

แบบ Balance คู่กับ กองทุนเปิดเคเคพี สตราทิจิค แอสเซ็ท อโลเคชั่น (หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม) ความเสี่ยงระดับ 5 เป็นกองทุนผสม เน้นสไตล์การลงทุนแบบสมดุล โดยสัดส่วนการลงทุนจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุน ทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง ผ่านกองทุนที่ใช้กลยุทธ์ Global Dynamic Investment Strategy เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการปรับสัดส่วนและวงจรเศรษฐกิจ เหมาะกับนักลงทุนที่มองหารูปแบบการลงทุนสไตล์ All Wealther รวมถึงนักลงทุนที่เริ่มลงทุน

แบบ Value Package คู่กับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์  ความเสี่ยงระดับ 6 โดยลงทุนในกองทุน DWS Invest CROCI Sector Plus(กองทุนหลัก) เน้นสไตล์การลงทุนในหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานระยะยาว ผ่านกองทุนรวมที่เน้นการคัดเลือกหุ้นผ่าน Value Indicator  เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบแนวทางแบบเน้นมูลค่า หรือ นักลงทุนที่มองหาโอกาสระยะยาวจากหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าทางพื้นฐาน

แบบ Mega Trend คู่กับกองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุน,Feeder Fund จะลงทุนในตราสารทุนเป็นหลักโดยเฉลี่ยในรอบปี ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็น Mega Trend ของโลกผ่านกองทุนที่ใช้กลยุทธ์ Trend Seeker ที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาว โดยมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่น จากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภค

ทั้งนี้ การออมและลงทุนทั้ง 4 รูปแบบ แม้จะให้ซื้อลงทุน 1 ครั้งแล้วถือยาวได้ถึง 10 ปี แต่หากต้องการได้ระดับราคาที่ดีการลงทุนทุกๆ ปี จะทำให้ได้ต้นทุนที่แตกต่างกันออกไป