กลุ่มไฟแนนซ์-โรงไฟฟ้าปรับขึ้น-เทรดคึกคัก ขานรับบอนด์ยีลด์ลดลง

HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์-โรงไฟฟ้าปรับขึ้นได้ดี-เทรดคึกคัก ขานรับบอนด์ยีลด์ปรับลงหลังเฟดคงดอกเบี้ย เล็งสถาบันเริ่มเข้าซื้อจาก Valuation อยู่ในโซนด้านล่างหลังปรับฐานไปมากก่อนหน้านี้ ทำให้เทรดหุ้นไม่แพง เชียร์ SAWAD, TIDLOR, GULF, GPSC

ดัชนีกลุ่มไฟแนนซ์ปิดเช้าพุ่ง 4.34% มาที่ 3,313.58 จุด เพิ่มขึ้น 137.97 จุด นำโดยหุ้น TIDLOR พุ่ง 7.77% มาที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 601.93 ล้านบาท
หุ้น SAWAD พุ่ง 7.19% มาที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 661.07 ล้านบาท
หุ้น JMT พุ่ง 6.40% มาที่ 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 399.05 บาท

ส่วนหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าปิดเช้าปรับขึ้นได้ดีด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก นำโดยหุ้น GULF บวก 2.84% มาที่ 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 429.64 ล้านบาท
หุ้น GPSC บวก 2.56% มาที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 299.44 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มโรงไฟฟ้า ปรับตัวขึ้นได้ดีในวันนี้ หลังจากปรับฐานมามากแล้วจน Valuation อยู่ในโซนด้านล่างทำให้การเทรดหุ้นของทั้งสองกลุ่มไม่แพง ท่ามกลางแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ที่ปรับตัวลง โดยมองหุ้นเข้าสู่ภาวะถือครองหุ้นกลุ่มนี้ในระดับต่ำ จากการลดความเสี่ยงก่อนหน้านี้ พอมีปัจจัยหนุนที่จะทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงให้ทางที่ดีขึ้น นักลงทุนก็เข้ามาซื้อ ซึ่งคาดว่านักลงทุนสถาบันจะเริ่มเข้าซื้อด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่เชื่อว่าสินเชื่อยังเติบโตได้ดี การตั้งสำรองฯอาจไม่มาก แต่ในไตรมาส 3/66 NPL อาจยังปรับขึ้น จึงต้องรอดูว่าใกล้พีคหรือยัง

ทั้งนี้ การส่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ทำร้ายตลาด และเฟดคงจะไม่กล้าที่จะขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่านี้อีก ส่วนตัวมองน่าจะผ่านจุดพีคการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ร้อนแรงมาก แต่ก็ไม่แย่

พร้อมแนะนำหุ้น SAWAD ให้ราคาเป้าหมาย 54 บาท เลือกให้เป็น Top picks ของวันนี้ เนื่องจากคาดกำไรไตรมาส 3/66 แข็งแกร่งกว่าคนอื่น คาดโตทั้ง YoY และ QoQ ส่วนหุ้น TIDLOR พื้นฐานดี แต่ยังมีความกังวลเสี่ยงหลุด SET50 สำรหับกลุ่มโรงไฟฟ้าแนะนำหุ้น GULF มองว่าปลอดภัยสุดจากประเด็นค่า Ft และยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานช่วยหนุนด้วย

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า การปรับตัวลงของ Bond yield อายุ 10 ปี ของสหรัฐลงมาเหลือ 4.7% และเฟดคงดอกเบี้ยชัดเจน รวมถึงจะมีการประมูลพันธบัตรสหรัฐใหม่ ซึ่งออกระยะสั้นมากกว่ายาว ทำให้ลดแรงกดัน และส่งผลให้ Bond yield ของไทยปรับตัวลง 0.004-0.005% ด้วย ซึ่งจะไปหนุนหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มโรงไฟฟ้าให้ปรับตัวขึ้นในวันนี้

อย่างไรก็ดี ยังไม่ฟันธงว่าดอกเบี้ยจะผ่านจุดพีคไปแล้ว เพราะหากราคาน้ำมันปรับขึ้นอีก ก็อาจะทำให้เงินเฟ้อขึ้นได้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเช่นกัน แต่ถ้าราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ เฟดก็คงจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย

พร้อมจัดให้ SAWAD เป็นหุ้น Top picks แต่เนื่องจากหุ้น SAWAD และ TIDLOR ปรับตัวขึ้นไปมากในวันนี้ หากจะเล่นตามก็จะเสียเปรียบ จึงแนะนำให้รอจังหวะย่อตัวก่อนค่อยเข้าไปซื้อ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้หุ้น TIDLOR เป็นหุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 972 ล้านบาท +5% q-q, +8% y-y แม้จะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แต่ PPOP คาดยังโตแกร่งจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่คาดปรับขึ้นจากสินเชื่อรถยนต์และมอเตอไซค์ที่เพิ่มขึ้น ส่วน Spread ยังทรงตัวแม้ Cost of Fund จะเพิ่มตามดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ถูกชดเชยจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ คาด NPLs คาดขยับขึ้นแตะ 1.63% ในไตรมาส 3/66 แต่ยังต่ำกว่าเป้าของบริษัท และคาดว่าจะทยอยลดลงในไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป โดยเห็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 66 ที่คาด -7% y-y อยู่เล็กน้อย และยังคาดปี 67-68 โตเฉลี่ยปีละ +23%

พร้อมแนะนำ”ซื้อ”หุ้น GPSC คาดกกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 1.5 พันล้านบาท +387% q-q จากโรงไฟฟ้า Glow SPP phase 5 กลับมาเดิมเครื่องปกติหลังหยุดซ่อมไตรมาส 2/66 และส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีตามปัจจัยด้านฤดูกาล รวมถึงราคาเชี้อเพลิงที่ลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่ม +355% y-y มาจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/65

แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 จะชะลอตัว q-q จากค่าไฟฟ้าที่ปรับลง อย่างไรก็ดีราคาหุ้นปรับตัวลดลง 32.5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว จึงเชื่อว่าราคาหุ้นมี Downside จำกัด คงราคาเป้าหมาย 59 บาท