“EGCO” ซื้อ 3 โรงไฟฟ้าในสหรัฐ หนุนกำไรปีหน้าโต 6-7%

HoonSmart.com>>ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เผยซื้อโรงไฟฟ้า 3 แห่งที่สหรัฐอเมริกา ผลิตไฟจากพลังงานสะอาด หวังปิดดีลสิ้นปีนี้ คาดดันกำไรจากตลาดสหรัฐเพิ่มเป็น 6-7% ในปี 67 จากปัจจุบัน 3% ของกำไรรวมบริษัท

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทเอ็กโก คัมแพซ ทู แอลแอลซี (EGCO Compass II, LLC) บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% ได้เข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 50% ใน “พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าคัมแพซ” (Compass Portfolio) ที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในการผลิตไฟฟ้า 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐเพนซิลเวเนีย 1 แห่ง และแมสซาชูเซตส์ 2 แห่ง รวมกำลังการผลิต 1,304 เมกะวัตต์ ทำให้มูลค่าการลงทุนในปีนี้จบที่ 30,000 ล้านบาทตามแผน และปีหน้ายังตั้งเป้าการลงทุนไว้ 30,000 ล้านบาทเช่นเคย แต่ไม่สามารถเปิดเผยเม็ดเงินลงทุนในครั้งนี้ได้

“ปัจจุบันเรามีกำลังการผลิตในโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาตามสัดส่วนการลงทุนอยู่ 1,274 เมกะวัตต์(MWe) หลังจากดีลการลงทุนนี้สำเร็จคาดว่าสิ้นปี 2567 จะทำให้เรามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 1,926 MWe ทำให้กำไรจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 6-7% หรือ 2 เท่าจากปัจจุบันที่มี 3% ของกำไรทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเราหวังว่าดีลการซื้อขายนี้จะสามารถลงนามได้ภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มรับรู้รายได้ภายในต้นปีหน้า เพราะชื่อของ EGCO เป็นที่รู้จักในตลาดไฟฟ้าสหรัฐอเมริกาแล้วหลังจากเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ลินเดน โคเกน ไรเซ็กเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คงไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนอดีตที่พิจารณาถึง 6 เดือน”นายเทพรัตน์ กล่าว

นายเทพรัตน์ คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะทำได้มากกว่าปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 61,725 ล้านบาท เพราะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ร่วม 1,000 MWe และไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่ารายได้จะทำจุดสูงสุดของปีเพราะเป็นช่วงฤดูหนาวของทั่วโลก ทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงมาก และจะมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าไรเซ็ก ขณะที่รายได้ไตรมาส 3 ก็จะออกมาดีเช่นเดียวกัน

สำหรับการโรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่งที่สหรัฐอเมริกา เมื่อดูปีที่สร้างและผลิตไฟฟ้าแล้วมากกว่า 10 ปี แต่การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ใช้กลยุทธ์เชิงสถานที่ตั้ง หรือพื้นที่ยุทธศาตร์ ที่จะมีข้อจำกัดในการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ โดยมีกำลังความต้องการใช้ไฟฟ้าในแต่ละปีสูงมาก ประกอบกับอยู่ใกล้แหล่งเชื้อเพลิง ทำให้ต้นทุนในการขนส่งเชื้อเพลิงต่ำ ทำให้โอกาสในการได้กำไรสูง และในตลาดสหรัฐอเมริกา โรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนเชื้องเพลิงต่ำจะได้รับการจ่ายไฟให้ตลาดก่อน ถ้ากำลังความต้องการไฟฟ้ายังมีอยู่อีกโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงจึงจะมีการจ่ายไฟออกมา ส่วนประเด็นโรงไฟฟ้าเก่าสามารถปรับปรุงได้ในอนาคต

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้ามาร์คัส ฮุก มีสัญญาขายไฟส่วนใหญ่ให้แก่ลองไอส์แลนด์ พาวเวอร์ ออธอริที (LIPA) และขายกำลังผลิตส่วนที่เหลือในตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม (PJM) ขณะที่โรงไฟฟ้ามิลฟอร์ด และโรงไฟฟ้าไดตันจะขายไฟให้แก่ตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้านิวอิงแลนด์ (ISO-NE)