FSSเตือนระวังแรงขายแบงก์ วางแนวรับ1,380-1,340 จุด

HoonSmart.com>>ฟินันเซีย ไซรัส(FSS)คาด SET Index จะปรับตัวลงสู่กรอบ 1,380-1,340 จุด ชดเชยการปรับลงของตลาดหุ้นในภูมิภาควานนี้ กลุ่มแบงก์ระวังแรงขาย หุ้น KKP, SCB ถูกปรับประมาณการและเป้าลง

บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) คาด SET Index วันนี้(24 ต.ค.2566) จะปรับตัวลงสู่กรอบ 1,380-1,340 จุด ชดเชยการปรับลงของตลาดหุ้นในภูมิภาควานนี้ สำหรับประเด็นสงครามที่มีความพยายามจากหลายฝ่ายในการใช้วิธีทางการทูตคลี่คลายสถานการณ์จนทำให้ราคาน้ำมันและ Bond Yield สหรัฐฯอายุ 10 ปีกลับมาปรับลงดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า แต่สถานการณ์ยังเปราะบาง

สัปดาห์นี้มีตัวเลขเงินเฟ้อของหลายประเทศ และ GDP ของเกาหลีใต้ วันนี้ติดตามส่งออกของไทย (ตลาดคาด -1.8% y-y) และการประชุมบอร์ดใหญ่เรื่องเงินดิจิตอล

กลุ่มแบงก์ระวังแรงขาย แบงก์ที่ถูกปรับประมาณการและเป้าลง (KKP, SCB)

แนวโน้มตลาดหุ้นยังผันผวน กลุ่มที่กำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแรงได้แก่การแพทย์และสื่อสารฯคาดว่าจะแข็งแรงกว่าตลาด ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ได้แก่ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว คาดทยอยฟื้นตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเร่งตัวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 4 ปี 2566-2567

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำ // ถือลงทุนระยะยาวหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วบริเวณ 1,450+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ต.ค : AAV, BBL, BDMS, JMT, KCE

หุ้นเด่นวันนี้ : BCH แนะนำ “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2566 คาดว่าดีขึ้นตามฤดูกาลที่มีไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกระบาดในช่วงที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยไทยและต่างชาติ และผู้ป่วยประกันสังคมเพิ่มสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ สามโรงพยาบาลใหม่ (KIH อรัญประเทศ, KH ปราจีนบุรี, KIH เวียงจันทร์) น่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ KIH เวียงจันทร์ยังมีอยู่ในไตรมาส 3 ปี 2566 แต่จะหายไปในไตรมาส 4 ปี2566 จากการคืนหนี้ ราคาหุ้นรับรู้ข่าวร้ายไปมากแล้ว
แนวรับ 19.80 บาท แนวต้าน 20.50-21.00 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น 586 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ 404 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 134 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ส่วนอาเซียนไหลออกจากทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปืนส์ มีเพียงเวียดนามที่ไหลเข้าเล็กน้อย 2 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มของกระแสเงินทุนยังมีแนวโน้มไหลออก เม็ดเงินไหลเข้าสู่ safe haven

สำหรับ ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงที่เหลือของเดือนต.ค.นี้ ประกอบด้วย
24 ต.ค. สหรัฐ: S&P Global Composite PIM Flast (ต.ค.)
26 ต.ค. ไทย: ส่งออก/นำเข้า (ก.ย.) ยูโรโซน: ECB meeting สหรัฐ: 3Q23 GDP growth
27 ต.ค. สหรัฐ: Core PCE Index (ก.ย.) ,ฝรั่งเศส: เงินเฟ้อ (ก.ย.), 3Q23 GDP Growth
31 ต.ค. จีน: NBS Manufacturing PMI (ต.ค.)