PRIME ฟอร์ซเซลจบ !!! … แห่เก็งกำไรดันหุ้นซิลลิ่ง

HoonSmart.com >> ปิดดีล !!!  รายใหญ่ถูกฟอร์ซเซลหุ้น PRIME นักลงทุนเห็นหุ้นร่วงอีกฟลอร์  วิ่งเก็งกำไร ดันราคาซิลลิ่ง ปิด 0.72 บาท พุ่ง 0.17 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 465.29 ล้านบาท ฟากบริษัท ฯ ชี้แจงขายหุ้นกู้เดือน ส.ค. เกลี้ยงจ้าแม่ !!! ได้เงินครบ 200 ล้านบาท  

 

 ราคาหุ้นบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ (PRIME)  ปรับตัวลดลงหนักต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับราคา 1.30 บาท +- ล่าสุดวันที่ 10 ต.ค. ฟลอร์ที่ราคา 0.38 บาท

ขณะเดียวกัน หลังราคาหุ้นปรับตัวลงลึก หรือฟลอร์ที่ 3 เช้าวันนี้ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไร ดันราคาหุ้นปิดซิลลิ่ง 0.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท มูลค่าซื้อขาย 465.29 ล้านบาท จำนวนหุ้นซื้อขาย 895.34 ล้านบาท

แหล่งข่าวนักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้น PRIME ร่วงฟลอร์ติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจาก นักลงทุนรายใหญ่ ถูกบังคับขาย (ฟอร์ซเซล) หลังจากฟอร์ซเซลจบ ราคาหุ้นหลุด 1 บาท ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไร หากดูผลดำเนินงานแล้ว จะพบว่า บริษัทมีพื้นฐาน กำไรปีละ 130 ล้านบาท พี/อี ไม่ถึง 20 เท่า  เชื่อว่า ราคาจะวิ่งกลับไปยืน 1 บาท ได้ จึงเข้ามาเก็งกำไรคึกคัก ซึ่งต้องระมัดระวังการเก็งกำไรจากราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมา

ด้านบริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ (PRIME) ชี้แจงว่า ตามที่มีการนำเสนอข้อมูล การขายหุ้นกู้ของบริษัท 200 ล้านบาท ในเดือนส.ค.2566 ว่า ขายได้ไม่ครบจำนวน มีการยกเลิกการขาย เป็นสาเหตุให้ราคาหุ้น PRIME ลดลงนั้น ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ลงทุนและสาธารณชนเข้าใจคลาดเคลื่อน

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 200 ล้านบาท ในเดือนส.ค.2566   จำหน่ายผู้ลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และจำหน่ายหุ้นกู้ 200 ล้านบาท ได้ครบทั้งจำนวน ซึ่งบริษัทฯ ได้รายงานการขายหุ้นกู้ และรายงานการใช้เงินต่อสำนักงานก.ล.ต.ตามข้อกำหนดเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ตามที่มีข่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์บางแห่ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นกู้ของบริษัท ประกาศยกเลิกการจำหน่ายหุ้นกู้ บริษัท ชี้แจงว่า บริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าว ได้ยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายก่อน ยื่นข้อมูลขออนุมัติการจำหน่ายหุ้นกู้ต่อสำนักงานก.ล.ต.

อีกทั้งหุ้นกู้ของบริษัท รุ่น PRIME239A จำนวน 500 ล้านบาท ครบกำหนดชำระเดือน ก.ย.2566 บริษัทฯได้ชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวนเรียบร้อยแล้ว ตามกำหนดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2566

บริษัทขอให้ผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจแก่บริษัทฯว่า บริษัทยังดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกราย และปฏิบัติตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน