ทีมแพทย์ GFC ตอกย้ำผู้นำมีบุตรยาก …ปลื้ม !!! หุ้นเทรดวันแรกเหนือจอง 52%

HoonSmart.com >> “GFC” เทรดวันแรกคึกคัก  ราคาเปิด 10.70 บาท เหนือจอง 3.70 บาท หรือ 52.86%  – คณะผู้บริหารตอกย้ำความเชื่อมั่น ผู้นำ การแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากที่ทันสมัยของอาเซียน  เร่งขยายสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และสาขาอุบลราชธานี สร้าง New S-Curve ในอนาคต

ทีมคณะผู้บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์  (GFC) นำโดย รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท, นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ รองประธานกรรมการบริษัท และ นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่าขอบคุณนักลงทุน ที่มีความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานบริษัท ส่งผลให้ GFC ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเหนือจองที่ 10.70 บาท

นับเป็นก้าวสำคัญผลักดันธุรกิจ สู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสอดรับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ  การขยายสาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และ คลินิกสาขาอุบลราชธานี คาดแล้วเสร็จและ เปิดให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ภายในไตรมาส1/2567 นี้ สร้าง New S-Curve ให้ GFC เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 “ GFC เรามุ่งมั่นเป็นผู้ให้บริการด้านทางการแพทย์ ครบวงจร สำหรับ ผู้มีบุตรยาก ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัยแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งแต่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช และเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ มากกว่า 23 ปี นักเทคนิคการแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์  ทำให้วันนี้ GFC ได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่น  สะท้อนให้เห็นถึงเปอร์เซ็นต์ ของ Success Rate ในการรักษาการตั้งครรภ์ ที่สูงถึง 72.29% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม”

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ว่า GFC เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มีศักยภาพ มีโครงสร้างรายได้ที่มั่นคง และฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง  หัวใจสำคัญของ GFC คือ การให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทาง  มีความรู้ความชำนาญการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โดยกลุ่มบริษัท เริ่มมีการนำเทคโนโลยี Early Embryo Viability Assessment (EEVA) ซึ่งเป็นระบบปัญญาประดิษฐ์ ระบบ AI มาช่วยในการประเมินคุณภาพของตัวอ่อนเป็นที่แรกในประเทศไทย เพิ่มโอกาสความสำเร็จในการมีบุตรให้มากที่สุด จึงทำให้กลุ่มบริษัทเป็นที่ยอมรับ และได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความสำเร็จในการให้บริการ

“GFC มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับเป็นผู้นำด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พร้อมด้วยนักเทคนิคการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์ ชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน โดยกลุ่มบริษัทมีนักวิทยาศาสตร์ ชำนาญการด้านการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ได้รับรองการเป็นนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน จากสมาคมนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนไทย และด้าน CLINICAL EMBRYOLOGY CERTIFICATION จากสมาคมด้านการเจริญพันธุ์และการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนแห่งยุโรป ปัจจุบันนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีนักวิทยาศาสตร์ที่สอบผ่านการรับรอง ESHRE จำนวน 2 ราย ในขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 53 ราย”

จากสำเร็จดังกล่าว สะท้อนถึงผลการดำเนินงาน GFC ที่มีอัตราการเติบโตของรายได้โตเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 13.37% โดยกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการปี 2563 – ปี 2565 และงวด 6 เดือนปี 2566 เท่ากับ 214.42 ล้านบาท 242.12 ล้านบาท และ 275.91 ล้านบาท และ 166.95 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับรายได้จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ มาจากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI เป็นรายได้หลัก ขณะที่กำไรสุทธิ ปี 2563-2565 และงวด 6 เดือนปี 2566 เท่ากับ 66.55 ล้านบาท 69.63 ล้านบาท 65.68 ล้านบาท และ 34.33 ล้านบาท ตามลำดับ อีกทั้ง อัตราส่วน ROE และอัตราส่วน ROA สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 72.29%

อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯ  ตอกย้ำ GFC เป็นหุ้นน่าลงทุน  สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ GFC ขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง ยิ่งเป็นการสร้าง New S-Curve ให้กับบริษัทฯในอนาคต ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่า หุ้น GFC จะเป็นหุ้นที่มีคุณภาพอีกหนึ่งตัวสำหรับนักลงทุนในตลาดทุนไทย ซึ่งจัดอยู่ในประเภทหุ้น Growth Stock ที่สามารถสร้างผลตอบแทน และสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ อย่างมั่นคงและยั่งยืน