ดาวโจนส์ปิดลบ 36 จุด จับตาเฟดประชุมประจำปี

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 36 จุด จากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและดอกเบี้ย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น ส่วน Nasdaq บวกวันที่ 4  หุ้นเทคโนโลยีฟื้นตัว จับตาเฟดประชุมประจำปี ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ตามกลุ่มพลังงาน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อย 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ปิดวันที่ 21 ส.ค. 2566 ที่ 34,463.69 จุด ลดลง 36.97 จุด หรือ 0.11% แต่ดัชนี Nasdaq พุ่งจากการวิ่งขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยีที่หนุนการฟื้นตัวในกลุ่มอื่นๆ ซึ่งกลบความวิตกต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,399.77 จุด เพิ่มขึ้น 30.06 จุด, +0.69%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,497.59 จุด เพิ่มขึ้น 206.81 จุด, +1.56%

หุ้นเทคโนโลยีหลายตัวฟื้น แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจและแนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับสูงขึ้น ซึ่งเป็นการไต่ระดับอย่างต่อเนื่อง ที่ส่งสัญญาณว่านักลงทุนกำลังมองว่าอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.34% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2007 ก่อนเกิดวิกฤติการเงิน

หุ้น Palo Alto Networks บวก 14.5% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 8.3% ก่อนการรายงานผลการดำเนินงานในวันพุธ ซึ่งตลาดคาดว่าจะรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแแกร่ง หุ้น Tesla และหุ้น Meta บวก 7% และ 2.4% ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 25 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

คริส ลาร์กิน จาก E*Trade แห่ง Morgan Stanley กล่าวว่า เทรดเดอร์จะวิเคราะห์ทุกประโยคจากนายพาวเวลล์ในการประชุมสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการดำเนินการของเฟด และนักลงทุนบางรายอาจมุ่งไปที่ข้อเท็จจริงว่าความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้อาจตอกย้ำจุดยืนของเฟดในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและยาวนานขึ้น
ผลสำรจMarkets Live Pulse ล่าสุดของ Bloomberg พบว่า 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 602 คนระบุว่า เฟดยังไม่สามารถเอาชนะภาวะเงินเฟ้อได้ และมากกว่า 80% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าสุนทรพจน์นายพาวเวลล์จะตอกย้ำการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวด

เคที นิกสัน จาก Northern Trust กล่าวว่า อีกไม่นาน เฟดและนักลงทุนจะเปลี่ยนจากการเน้นไปที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะสูงแค่ไหน ไปสู่ความกังวลว่าจะอยู่ในระดับนั้นได้นานเพียงใด และนัยะต่อการที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกนาน

นอกจากนี้ยังมองว่านายพาวเวลล์ยังคงหักล้างมุมมองของตลาดว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นภายในปี 2024

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากการปรับขึ้นของกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น และจากการปรับขึ้นของกลุ่มเฮลธ์แคร์ ที่ไดรับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้น Novo Nordisk

กลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 0.4% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์บวก 0.3% หุ้น Novo Nordisk บวก 0.8% หลังมอร์แกน สแตนเลย์ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

แรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากการที่ตลาดร่วงลงไปมานับตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคมหลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)และธนาคารกลางยุโรป(ECB)ยังไม่ยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของตลาดถูกจำกัดด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับสูงสุดรอบ 15 ปี

นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟด เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 25 ส.ค. ซึ่งมีนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด และนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เข้าร่วม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 448.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด, +0.05%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,257.82 จุด ลดลง 4.61 จุด, -0.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,198.06 จุด เพิ่มขึ้น 33.95 จุด, +0.47%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.28 จุด เพิ่มขึ้น 29.02 จุด, +0.19%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 80.72
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 84.46 ดอลลาร์/บาร์เรล