ดาวโจนส์บวก 105 จุด Nasdaq ร่วง ดัชนี PPI สูงกว่าคาด บอนด์ยีลด์พุ่ง

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวก 105 จุด ส่วน Nasdaq ร่วง หลังจากดัชนี PPI สูงกว่าคาด บอนด์ยีลด์พุ่ง  จากความกังวลเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง กดดันหุ้น growth stock ขนาดใหญ่  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง ตลาดคาดดอกเบี้ยสูงอีกนาน ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 11 ส.ค.2566 ที่ 35,281.40 จุด เพิ่มขึ้น 105.25 จุด หรือ 0.30% หลังการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้น และกดดันหุ้น growth stock ขนาดใหญ่ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยให้อ่อนตัวลง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,464.05 จุด ลดลง 4.78 จุด, -0.11%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,644.85 จุด ลดลง 93.14 จุด, -0.68% เป็นการปิดลบสัปดาห์ที่ 2 ติดกันครั้งแรกในปี 2023 จากการเทขายหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ นำโดยหุ้น Nvdia ที่ลดลง 3.6% และฉุดกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ให้ลดลง 2.2%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.6% ดัชนี S&P500 ลดลง 0.3% ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 1.9%

กระทรวงแรงงานรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือนก.ค. ว่า ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 0.7% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.3% สูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 2.3% ที่นักวิเคราะห์คาดและเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.3% สูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด

แม้บรรดาเทรดเดอร์คาดไว้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี แต่ความน่าจะเป็นว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี่ยในการประชุมเดือนกันยายนลดลงมาที่ 88.5% จาก 90%

ตัวเลขเงินเฟ้อที่ขัดกันทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า ระหว่างเงินเฟ้อที่วัดดัชนี PPI ซึ่งสูงกว่าคาด หรือเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี CPI ที่ลดลงมากกว่าคาด ตัวไหนจะให้ภาพทิศทางนโยบายการเงินได้ดีกว่า

เมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานรายงานดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 3.3% ที่นักวิเคราะห์คาด และเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเมื่อเทียบรายปีและรายเดือนเงินเฟ้อสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งเคลื่อนไหวตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นนั้น ได้ปรับตัวขึ้นมาที่ 4.88% ส่งผลกดดันหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ลง โดยหุ้นเทสลา หุ้นอัลฟาเบท หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง ระหว่าง 0.4% ถึง 1.1%

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนส.ค.ลดลงมาที่ 71.2 ต่ำกว่า 71.7 ที่นักวิเคราะห์คาด และผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า จากระดับ 3.4% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว ส่วนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.9% จากระดับ 3.0% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มพลังงานในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น ซึ่งเดวิด รัสเซลจาก TradeStation กล่าวว่า ตลาดมีการสลับกลุ่มเล่น เงินออกจากหุ้น growth stock ขนาดใหญ่ไปกลุ่มอื่นที่ยังไม่ปรับขึ้นในปีนี้

ส่วนในกลุ่มอื่นๆ หุ้น News Corp บวก 4.4% หลังรายงานกำไรรายไตรมาสดีกว่าคาด

หุ้นอาลีบาบาและหุ้นเจดีดอทคอมที่จดทะเบียนในสหรัฐลดลง 3.9% และ 6.1% ตามลำดับ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของจีน อีกทั้งข้อมูลใหม่ที่รายงานออกมาบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอตัว

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ด้วยความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยโลกอาจมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นเวลานาน

แม้หุ้นยูบีเอสพุ่งหลังยุติข้อตกลงการค้ำประกันของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์สำหรับการเทกโอเวอร์ธนาคารเครดิตสวิส
หุ้นยูบีเอสบวก 4.7%

ตลาดหุ้นอังกฤษลดลง จากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ที่ขยายตัวเกินคาดทำให้คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

แม้คาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในรอบนี้ แต่นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลง และมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 1.7% จากราคาโลหะที่ได้รับแรงกดดันหลังจากจีนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้วิตกต่ออุปสงค์ที่ชะลอตัวจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ของโลก

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 459.17 จุด ลดลง 5.06 จุด, -1.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,524.16 จุด ลดลง 94.44 จุด, -1.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,340.19 จุด ลดลง 93.43 จุด, -1.26%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,832.17 จุด ลดลง 164.35 จุด, -1.03%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 83.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 86.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล