HoonSmart.com>>”บี.กริม เพาเวอร์”(BGRIM) เผยไตรมาส 2/66 ฟื้นแข็งแกร่ง กำไร 678 ล้านบาท พลิกจากปีก่อนขาดทุน 193 ล้านบาท โตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกกำไร 399 ล้านบาท กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ฟื้นตัว ขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรม 41.2 MW วิ่งเข้าเป้า 50-60 MW แผนปี66 เพิ่มกำลังผลิตอีกไม่น้อยกว่า 609 MW ลดค่าใช้จ่าย 50-70 ล้านบาท ราคาก๊าซลดลงเหลือเฉลี่ย 400-450 บาทต่อล้าน BTU รุกพอร์ตพลังงานหมุนเวียน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero บอร์ดใจดีแจกปันผล 0.18 บาท ขึ้น XD 28 ส.ค.นี้
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไรสุทธิ 678.4 ล้านบาท เท่ากับกำไรหุ้นละ 0.18 บาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนสุทธิ -193.2 ล้านบาท ขาดทุนหุ้นละ 0.11 บาท และดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้ที่มีกำไรสุทธิ 398.9 ล้านบาท โดยรวม 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรทั้งสิ้น 1,077.3 ล้านบาทหรือ 0.29 บาทต่อหุ้น เทียบกับที่ขาดทุนสุทธิ -169.9 ล้านบาทหรือ 0.14 บาทต่อหุ้น
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2566 มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 686 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 147 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่มีกำไรสุทธิ 678 ล้านบาท ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับขาดทุน 193 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP นอกจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแล้ว
นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน“FTSE4Good Index Series” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
” BGRIM ได้ขายไฟฟ้าเพิ่มให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ในประเทศไทยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน จำนวน 41.2 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้ให้บรรลุเป้าหมายการเชื่อมเข้าระบบตลอดทั้งปีที่ 50-60 เมกะวัตต์ และในเดือนพ.ค. 2566 B.Grimm Power Korea (บริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ถือหุ้น 100%) ได้เข้าถือหุ้นใน Saemangeum Sebit Power Co.,Ltd. (SEBIT) เพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังผลิตติดตั้ง 98.99 MWในสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้ B.Grimm Power Korea ถือหุ้นใน สัดส่วน 21.27% ของหุ้นทั้งหมด และมีสิทธิได้รับเงินปันผล 33.85% ใน SEBIT”
บี.กริม เพาเวอร์ ยังให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายการลงทุนซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักในการเติบโต โดยในเดือนพ.ค. 2566 บริษัทย่อยคือ บี.กริม เพาเวอร์ สมาร์ท โซลูชั่น ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา(Solar Rooftop) ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 1 เมกะวัตต์ รวมทั้งได้จัดหาใบรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียน (REC) ให้กับ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์ส แมนูแฟค เจอริ่ง (ประเทศไทย) และในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ อมตะ วอเตอร์ ในการพัฒนาโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำขนาดใหญ่ เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี โดยจะเริ่มพัฒนาเฟสแรก ด้วยขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 19.5 MW
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า BGRIM จะมุ่งขยายการลงทุนทั้งโครงการใหม่และการเข้าซื้อกิจการ กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้วจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 609 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม (BGPM2) โครงการโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โครงการ (BGPAT2&3) รวมถึงการเข้าลงทุนใน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย 2 โครงการ (BGMCSB และ ISSB) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐเกาหลี (SEBIT) พร้อมตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ เข้าเชื่อมระบบรวม 50-60 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
นอกจากนี้ มุ่งดำเนินการตามแผนควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 50-70 ล้านบาท ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยอื่นๆ ที่จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงของค่า Ft จาก 0.9343 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงเป็น 1.5492 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในเดือนม.ค.-เม.ย.2566 และ 0.9119 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในเดือนพ.ค.-ส.ค. 2566 และ 0.6689 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในเดือนก.ย.-ธ.ค.2566 และคาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยสำหรับ SPP อยู่ที่ 400-450 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2566 จาก 476 บาทต่อล้าน BTU ในปี 2565
ส่วนแผนในระยะยาว บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็น
ศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 และตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในปี 2573
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 ส.ค. และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 8 ก.ย. 2566