HoonSmart.com>>”ทริพเพิล ไอ” (III) ตอกย้ำ โมเดลโฮลดิ้ง กลยุทธ์ Logistics and Beyond เดินมาถูกทาง ไตรมาส 2/66 ฟาดกำไร 163 ล้านบาท ทุบสถิตินิวไฮ เงินลงทุนส่งกำไรก้อนโต มีเงินในมือ-เปิดวงเงินกับแบงก์รวม 1,000 ล้านบาท เดินหน้าต่อยอดธุรกิจมีมาร์จิ้นดี 25-30% คู่แข่งน้อย ขายไอพีโอ ANI ไตรมาส 4/66 บอร์ดแจกปันผลกลางปี 20 สตางค์/หุ้น สูงกว่าปีก่อนที่ 15 สตางค์ ทุ่ม 300 ล้านบาทซื้อหุ้นคืน ทนเห็นราคาต่ำ P/E 11 เท่าไม่ได้ คาดครึ่งปีหลังกำไรดีกว่า 6 เดือนแรก
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงมีความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี โดยไตรมาสที่ 2/2566 มีกำไร 163.4 ล้านบาทนิวไฮ เติบโต 43.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา 9.6% รวม 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 312.5 ล้านบาท สวนทางกับสภาวะอุตสาหกรรมที่มีแรงกดดันจากดัชนีค่าระวางที่ปรับตัวลดลง 5 ไตรมาสติดต่อกัน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก และภาคการส่งออกของไทยยังติดลบ และมั่นใจว่าแนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก
กำไรที่โดดเด่น ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กรเป็นโฮลดิ้งที่ทำธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ Logistics and Beyond จากการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาอัตราค่าระวางเรือที่ควบคุมไม่ได้ เพื่อเป็นการขยายแหล่งรายได้ พื้นที่การทำธุรกิจ และรับรู้กำไรจากธุรกิจใหม่ ที่สามารถต่อยอดธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมความต้องการในทุกมิติ
“ กำไรในไตรมาสที่ 2และ 6 เดือนแรกโตโดดเด่น ตอกย้ำกว่าเราเดินทางถูกทาง สร้างกำไรสูงและบริหารความผันผวนจากภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก้าวไปเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค และยังคงเข้าไปลงทุนเพิ่ม ทั้งผ่านการซื้อกิจการ ร่วมลงทุน และการต่อยอดธุรกิจ เน้นบริการที่มีมาร์จิ้นดี 25-30% คู่แข่งน้อย เช่นการจัดส่งสินค้าในเอเชียภายในหนึ่งวัน จับตลาดส่งผลิตภัณฑ์ยาที่มีความต้องการสูง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่บริษัทมีการวิจัยและพัฒนาแล้ว”นายทิพยกล่าว
นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) กล่าวว่า บริษัทมีรายได้ลดลง ขณะที่มีกำไรนิวไฮ เนื่องจากบริษัทรับรู้กำไรจากเงินลงทุน เช่น บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI)มีกำไรที่ดี และแนวโน้มยังมีการเติบโตสูง และในครึ่งปีหลังจะมีกำไร จากการนำบริษัท ANIเข้าตลาดหลักทรัพย์ตามแผนงาน คาดเสนอขายให้ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)ในไตรมาสที่ 4/2566 ทั้งนี้จะต้องติดตามภาวะตลาดประกอบด้วย แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นลดลง แต่การเข้าตลาดห้นจะทำให้ราคาหุ้นมีมูลค่าสูงขึ้น และ ANI ยังมีแผนการขยายการให้บริการจากปัจจุบันอยู่ในอาซียน ออกไปอีก 3 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น
ส่วนกำไรที่ดีขึ้นในครึ่งปีนี้ คณะกรรมการบริษัทฯจึงมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.20 บาท มากกว่ากลางปีก่อนที่ 0.15 บาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อในทะเบียนวันที่ 24 ส.ค. กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 ส.ค.2566และจ่ายเงินวันที่ 8 ก.ย.2566
นอกจากนี้ราคาหุ้น IIIที่ปรับตัวลงมา ซื้อขายที่ระดับ P/E ประมาณ 11-12 เท่า ถือว่าต่ำมาก ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.10% ของทุนเรียกชำระแล้ว ภายในวงเงิน 300 ล้านบาท โดยจะเริ่มซื้อจากตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 2566 ถึงวันที่ 14 ก.พ. 2567
“ การจ่ายปันผลและโครงการซื้อหุ้นใช้เงินรวมประมาณ 462 ล้านบาท มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อกระแสเงินสด ที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีเงินสดในมือ และเปิดวงเงินสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 0.25 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) ที่ 0.17 เท่าโครงการซื้อหุ้นคืน ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการปรับแผนโครงสร้างทุน เพื่อให้เกิดผลตอบแทนสูงสุดแก่นักลงทุน “นายวิรัชกล่าว