BCPG กำไรดำเนินงาน Q2 โต 14% เริ่มรับรู้รายได้คลังน้ำมันในไทย

HoonSmart.com>>”บีซีพีจี”(BCPG) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 183 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 จากการเริ่มรับรู้รายได้ของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย รวมถึงมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ใน สปป. ลาว ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 หด 39% เทียบกับไตรมาส 2/65 เหตุหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว เพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัทฯ ไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 183 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/66 จากรายได้ของธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทยที่เริ่มรับรู้ในเดือนมิถุนายน และรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ใน สปป. ลาว ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 67 เนื่องจากการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าเพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity – EVN) ตั้งแต่ปลายปี 2565 และได้กลับมาผลิตไฟฟ้าเพื่อเริ่มส่งขายให้แก่ EVN ในครึ่งหลังของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2/66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 201 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/66 เนื่องจากมีรายการพิเศษจากการรับรู้การกลับรายการขาดทุน จากการด้อยค่าของสินทรัพย์โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ชิบะ 2 ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลงร้อยละ 39 เนื่องจากการหยุดผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว เพื่อเตรียมการขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการผลิตและเริ่มขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนามครบตามกำลังการผลิตเรียบร้อยแล้ว

“ในครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทฯ จะรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มจำนวนจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ธุรกิจคลังน้ำมันในประเทศไทย และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เราได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา”นายนิวัติ กล่าว