ITC ฟื้น กำไร 445 ล้านบ.โต 4%จาก Q1/66  แจกปันผล 0.25 บาท/หุ้น

HoonSmart.com>>” ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น”หรือ ITC  เปิดผลงานไตรมาส2/66  กำไรสุทธิ 445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 4%  ยอดขายรวม 3,243 ล้านบาท ลดลง  10%  ส่วนครึ่งปีแรกทำกำไรได้ 870 ล้านบาท  ใจดีแบ่งกำไร 86% จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล  0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้นป้าย   XD  วันที่ 10 ส.ค.66  แผนครึ่งปีหลังเตรียมเดินสายพบนักลงทุนและลูกค้าทั่วโลก 

นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น   (ITC)  เปิดเผยว่า  บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ จะเห็นได้ว่าผลงานในไตรมาส 2 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะกำไร บริษัทฯ จึงได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรกอยู่ที่ 0.25 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน  750 ล้านบาท คิดเป็น 86%ของกำไรสุทธิครึ่งปีแรก กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 11 ส.ค.ขึ้นเครื่องหมาย XD  วันที่ 10 ส.ค. และกำหนดจ่ายในวันที่ 25 ส.ค. 2566

ส่วนแผนงานครึ่งปีหลัง ITC จะเดินสาย(โรดโชว์)พบนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยอย่างต่อเนื่อง และร่วมในงานจัดแสดงสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงต่างๆ ทั้งในเอเชีย ยุโรป รวมถึงงาน SuperZoo ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อพบปะลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสพบลูกค้าและนักลงทุนในประเทศญี่ปุ่นและยุโรปในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เพื่อขยายธุรกิจและฐานลูกค้ารวมถึงนักลงทุนสู่กลุ่มใหม่ๆ อีกด้วย

สำหรับยอดขายในครึ่งปีแรก มีสัดส่วนในภูมิภาคอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้  51%ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่เอเชียและโอเชียเนียอยู่ที่ 38% และยุโรป  11% มาจากอาหารแมว 68% อาหารสุนัข 17% ขนมทานเล่นของสัตว์เลี้ยง 12% และธุรกิจอื่น ๆ อีก 3%

“เรายังคงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นด้วยนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกมีผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการของลูกค้ามากถึง 3,740 รายการ ส่วนครึ่งปีหลังจะเดินหน้านำเสนอสินค้านวัตกรรมและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมทั้งในรูปแบบของมูส ปาเต และเครื่องดื่ม ส่งไปยังลูกค้ากลุ่มซุปเปอร์มาร์เก็ตและแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน” นายพิชิตชัย กล่าว

นอกจากนวัตกรรมแล้ว ITC ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของกลุ่มไทยยูเนี่ยนที่ได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® ตั้งเป้าหมายถึงปี 2573 ครอบคลุมการดูแลทั้งมิติของผู้คนและสิ่งแวดล้อม ไอ-เทลในฐานะบริษัทในเครือ จึงมีการสรรหาแรงงานอย่างมีความรับผิดชอบ และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้เริ่มใช้หลักการ Employer Pays Principles หรือนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับสมัครแรงงานซึ่งรวมถึงแรงงานต่างชาติ ในมิติของการดูแลสิ่งแวดล้อมนั้น โรงงานของไอ-เทลถึง 2 โรงในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดสงขลา เป็นโรงงานต้นแบบในจำนวน 5 โรงของกลุ่มไทยยูเนี่ยน นำร่องในด้านกระบวนการผลิตที่เป็นเลิศ และใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง

ปัจจุบันโรงงานของไอ-เทลเดินหน้าพัฒนาระบบภายในโรงงาน เพื่อลดการปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ ลดของเสียฝังกลบเป็นศูนย์ และลดการสูญเสียอาหารเป็นศูนย์ และมีการดูแลในเรื่องของการลดก๊าซเรือนกระจก อาทิ การติดตั้งหลังคาโซลาเซลล์ และการใช้ระบบออโตเมชั่น นอกจากความยั่งยืนแล้วยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตอีกด้วย

“ผมมั่นใจว่าการก้าวสู่กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ในครั้งนี้ของไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างยั่งยืน แข็งแกร่งและโดดเด่นในเวทีโลก” นายพิชิตชัยกล่าวทิ้งท้าย

การซื้อขายหุ้น ITC  ในวันที่ 27  ก.ค. ในภาคเช้าราคาขึ้นสูงสุดแตะ 17.80 บาท แต่เปิดในภาคบ่าย ปรับตัวลงทันที รับข่าวกำไรไตรมาสที่2 /2566 ร่วงลง 67%  เทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสแรกปีนี้ ราคาลงไปต่ำสุดแตะ 16.90 บาท ก่อนเด้งขึ้นมาซื้อขายเหนือ 17  บาท ณ เวลา 15.30 น.