KGI เชียร์”ซื้อ”BCPG ปรับเพิ่มกําไรปี 67-68 สะท้อน M&A 3 ดีล

HoonSmart.com>>บล.เคจีไอ (KGI) ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น BCPG เป็น”ซื้อ”ราคาเป้าหมายใหม่ 11.30 บาท สะท้อนปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลังรวมมูลค่าจากดีล M&A ทั้ง 3 ดีล เชื่อพัฒนาการล่าสุดจะกระตุ้นความมั่นใจของนักลงทุนหลังปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าในสหรัฐได้ตามแผนและการกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโครงการพลังน้ำ จึงคาดราคาหุ้นน่าจะวิ่งขึ้นไปได้ตามแนวโน้มกําไรที่พลิกมาเป็นขาขึ้น ล่าสุดหุ้น BCPG ทรงตัวที่ 9.60 บาท

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หรือ KGI ปรับเพิ่มคําแนะนําหุ้น บริษัท บีซีพีจี (BCPG) จาก”ถือ”เป็น”ซื้อ”ด้วยราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ที่ 11.30 บาท สะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกําไรหลังจากรวมมูลค่าจากดีล M&A ทั้งสามดีล ซึ่งได้แก่ oil terminal และโรงไฟฟ้าก๊าซ 4 แห่งในสหรัฐ โดยเชื่อว่าพัฒนาการล่าสุดจะช่วยกระตุ้นความมั่นใจเชิงบวกของนักลงทุนหลังจากปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าในสหรัฐได้ตามแผน และการกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโครงการพลังน้ำ จึงคาดว่าราคาหุ้นน่าจะวิ่งขึ้นไปได้ตามแนวโน้มกําไรที่พลิกมาเป็นขาขึ้น ซึ่งจะช่วยอุด gap ของa dder และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ

ทั้งนี้ เชื่อว่าพัฒนาการล่าสุดจะช่วยกระตุ้นความมั่นใจเชิงบวกของนักลงทุน ได้แก่ การปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซ 4 แห่งในสหรัฐ (Carrol& South Field และ Liberty & Patriot)และการที่ Nam San 3A & 3B กลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอีกครั้ง (114MWe ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.)โดย BCPG เริ่มรับรู้กําไรของโรงไฟฟ้าในสหรัฐ 2 แห่งแรกในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และ 2 แห่งหลังในวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งเป็นไปตามแผน เหลือเพียงดีลการซื้อ oil terminal ซึ่งเป็นดีลที่สาม ซึ่งมีกําหนดจะปิดดีลภายในครึ่งหลังปี 66 โดยสรุปแล้วทั้ง 3 ดีล คาดจะหนุนให้กําไรบริษัทอยู่ในขาขึ้น และช่วยอุด gap ของ adder ทั้งนี้โรงไฟฟ้าก๊าซจะคิดเป็น 33% ของพอร์ต BCPG ในขณะที่ไม่เป็นห่วงเรื่องระดับหนี้ของบริษัท

พร้อมปรับเพิ่มกําไรปี 67-68 ขึ้นอีก 6-8% เพื่อสะท้อนดีล M&A ทั้ง 3 ดีล ในขณะที่ปรับกําไรปีนี้ลง 17% เพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำอ่อนแอลง ทั้งนี้ ดีล M&A ทั้งสามได้แก่ oil terminal (150-200 ล้านบาท/ปี), ดีลซื้อโรงไฟฟ้าสหรัฐ 2 แห่งแรก (Carrol &South Field–115MWe) (150-200 ล้านบาท/ปี) และดีลซื้อโรงไฟฟ้าสหรัฐ 2 แห่งหลัง (Liberty & Patriot – 426MWe) (300-450 ล้านบาท/ปี) ทั้งนี้คาดกําไรหลักปี 66-68 จะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (-31% YoY) / 1.8 พันล้านบาท (+24% YoY) / 2 พันล้านบาท (+13% YoY) ส่วนไตรมาส 2/66 ยังไม่ได้ตัวเลขยอดผลิตไฟฟ้าจริง แต่คาดว่าเร็ว ๆ นี้ เบื้องต้นคาดว่ากําไรหลักในไตรมาส 2/66 อาจลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้า Solar และพลังงงานลมในทุกทําเลที่ตั้ง แต่จะถูกชดเชยบางส่วนจากการรับรู้โครงการสหรัฐเต็มไตรมาส และโครงการพลังน้ำกลับมาผลิตอีกครั้ง

แม้ว่า BCPG จะไม่ได้เป็นหุ้น renewable เต็มตัวแล้ว แต่คิดว่านักลงทุนที่มองหา Growth Stock น่าจะตอบรับในเชิงบวกหลังมีการประกาศดีล M&A ใหม่ออกมาหลังจากที่เงียบมานาน ทั้งนี้ ราคาหุ้น BCPG ในปัจจุบันยังอยู่ที่ระดับเท่ากับ P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง

ตั้งแต่ต้นปีนี้ consensus ได้ปรับเพิ่มกําไรปี 66 ของ BCPG ไปแล้ว 5% ในขณะที่กําไรหุ้นอื่นในกลุ่มถูกปรับลง ส่วนราคาหุ้น BCPG กลับลดลง 6% ทั้งนี้ มองว่า Downside ค่อนข้างจํากัด เพราะ margin ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในครึ่งแรกปี 66 หลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำกลับมาเดินเครื่องผลิตอีกครั้ง, ปิดดีล M&A ไปหลายดีล และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะแค่ชะลอตัวลง แต่ยังไม่ถึงกับเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.หุ้น BCPG ทรงตัวที่ 9.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 9.32 ล้านบาท