บล.หยวนต้า เชียร์ “ซื้อ” BGRIM เล็งกำไรฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี

HoonSmart.com>>บล.หยวนต้า เชียร์”ซื้อ”หุ้น BGRIM ให้เป็น Top Pick กลุ่มโรงไฟฟ้า เล็งกำไรฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง-ปริมาณผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยฟื้น รวมถึงมีอัพไซด์จากลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศ-คาดชัดเจนในครึ่งหลังปี 66 นอกจากนี้ได้รับความเสี่ยงจำกัดจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ ด้านหุ้น BGRIM ปิดเช้าลบ 0.66%

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ให้เป็น Top Pick ของกลุ่มโรงไฟฟ้าสำหรับการลงทุนในช่วงไตรมาส 3/66 คาดกำไรปกติฟื้นตัว YoY ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวลงตามราคา LNG ในตลาดโลก และปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ฟื้นตัว นอกจากนี้ หุ้นมี Upside เพิ่มเติมจากการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในต่างประเทศ (คาดมีความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีลในช่วงครึ่งหลังปี 66)

ทั้งนี้ มองว่า BGRIM มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่ากลุ่มฯ ในระยะกลาง เนื่องจากกำไรของบริษัทฯที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง และอัตราผลตอบแทนพันธ่บัตร (Bond Yield) ที่ผ่านจุดสูงสุดจะส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Defensive (เช่นโรงไฟฟ้า) ถูก Re-rate PER ขึ้น รวมถึงได้รับความเสี่ยงจำกัดจากนโยบายของรัฐบาลใหม่

BGRIM คาดได้รับผลกระทบจำกัดจากนโยบายของรัฐบาลใหม่น้อยกว่ากลุ่มฯ เนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจะสามารถชดเชยผลกระทบจากการปรับค่า Ft ลงได้ และบริษัทฯเน้นลงทุนในโรงไฟฟ้า SPP และพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก ทำให้มีความเสี่ยงในประเด็นของค่าความพร้อมจ่ายจำกัด

แม้ กกพ. จะมีการปรับลดค่า Ft งวด พ.ค. –ส.ค. ลง -63.73 สตางค์/หน่วย แต่เบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 ที่ระดับ 380-400 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง ทั้ง YoY และ QoQ หลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติใน EPP มีแนวโน้มลดลงเร็วกว่าค่า Ft (คาดที่ระดับ 400-420 บาท/MMBtu)รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการรับรู้รายได้จากลูกค้า IU กลุ่มใหม่ในไตรมาส 2/66 ราว 15-20 MW หากมองไปไตรมาส 3/66 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัวต่อเนื่อง YoY และ QoQ รวมถึงเป็นจุดสูงสุดของปีหลังต้นทุนก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงต่อและมีจำนวนวันหยุดน้อยกว่าไตรมาส 2/66 (ไม่มีวันหยุดสงกรานต์)

ขณะที่กำไรปกติไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มเติบโต YoY เช่นกัน แม้ได้รับผลกระทบจากการปรับค่า Ft รอบ ก.ย.–ธ.ค. แบบเต็มไตรมาส เพราะต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงจะสามารถชดเชยผลกระทบได้ แต่คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล (ภาคการผลิตเริ่มชะลอตัวหลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลสิ้นปี)

พร้อมปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 66 เป็น 46 บาท/หุ้น หลังปรับกำไรปี 66-67 ลงเป็น 1,674 ล้านบาท (+347% YoY) และ 2,451 ล้านบาท (+46% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานอัตราค่าไฟฟ้าของกลุ่ม IU เป็น 4.50 บาท/หน่วย และ 3.90 บาท/หน่วย ตามลำดับ

หุ้น BGRIM ปิดเช้าลบ 0.66% มาที่ 37.50 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 31.56 ล้านบาท