“คิงส์ฟอร์ด” แนะกลุ่ม Mid Cap รายได้โต ชี้เป้า SNNP-ILINK

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,520 – 1,525 แนวต้าน 1,535 – 1,540 จุด ขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน และรอความชัดเจนการตั้งรัฐบาล แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่ม Mid Cap. คาดรายได้เติบโตดี ชี้เป้า SNNP, ICHI, NSL, SUN, MASTER, KLINIQ, MTW ยกหุ้นเด่น SNNP, ILINK

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,520 – 1,525 แนวต้าน 1,535 – 1,540 จุด โดยยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน และรอความชัดเจนการตั้งรัฐบาล แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่ม Mid Cap. คาดรายได้เติบโตดี เช่น SNNP,ICHI,NSL,SUN,MASTER,KLINIQ,MTW

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SNNP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.00 บาท) ผลประกอบการ 1Q66 มีกำไรสุทธิ 154 ล้านบาท +1%QoQ, +46%YoY แม้ไม่ใช่ช่วง High Season ทำให้ยอดขายลดลง QoQ แต่กำไรยังขยายตัวได้เนื่องจากการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่วน YoY กำไรโตเด่นตามฐานรายได้และอัตรากำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้ม 2Q66 คาดกำไรยังโตได้ต่อ QoQ, YoY จากการออกสินค้าใหม่และการเปิดสายการผลิตใหม่ในเวียดนามเฟส 2(ผลิตเบนโตะเริ่มเดือน 5) รวมถึงมีโมเมนตัมต่อในช่วง 2H66 จากการเปิดสายการผลิตในเวียดนามเฟส 3 (เจเล่ 4Q66) ทำให้ยอดขายจากเวียดนามทั้งปีโตตามเป้าที่ 1 พันล้านบาท ช่วยหนุน margin เพิ่มจากการประหยัดต่อขนาดและต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าโรงงานในประเทศไทย ส่วนรายได้ในประเทศอื่นๆ ที่เป็นตลาดใหม่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ตั้งเป้าโต double digit ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 ที่ 710 ล้านบาท (+37%YoY)

หุ้น ILINK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.00 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q66 อยู่ที่ 127 ล้านบาท (+51%YoY, +4% QoQ ) มีแรงหนุนจากกระแสนิยมใน Solar Cell ผ่านการติดตั้งแผงโซลาร์ อุปกรณ์ และสายสัญญาณยี่ห้อ LINK รวมไปถึงรายได้ในธุรกิจโครงการจากการทยอยรับรู้รายได้โครงการที่สำคัญ Backlog เช่น งานจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ 33 เควี เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดว่าจะยังได้ประโยชน์ demand ในกลุ่มสายสัญญาณอย่างต้องเนื่อง ส่วนในด้านธุรกิจโครงการ ล่าสุด บ.ก็ชนะราคาต่ำสุดการประมูลงานก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำระบบ 115 KV ไปยังเกาะสมุย มูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท ของกฟภ. ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ILINK ที่ 470 ล้านบาท (+23%YoY) และ 491 ล้านบาท (+4%YoY)