ดาวโจนส์ปิดลบ 134 จุด จับตาสภาโหวตขยายเพดานหนี้

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ลบ 134 จุด จับตาสภาโหวตขยายเพดานหนี้ นักลงทุนยังวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.37 ดอลลาร์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบกังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดอ่อนแอและความไม่แน่นอนการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ กลบปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อยูโรโซนที่อ่อนตัวลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 31พฤษภาคม 2566 ที่ 32,908.27 จุด ลดลง 134.51 จุด หรือ 0.41% นักลงทุนจับตาการลงคะแนนร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ของสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่วิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่งทำให้วิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และจากภาวะเศรษฐกิจของจีน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,179.83 จุด ลดลง 25.69 จุด, -0.61%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,935.28 จุด ลดลง 82.14 จุด, -0.63%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง นักลงทุนวิตกผลกระทบจากเพดานหนี้ และวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงานล่าสุด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.62% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลงมาที่ 4.3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีลดลงมาที่ 3.84%

ในรอบเดือนนี้ดัชนี Nasdaq บวก 5.8% จากการปรับขึ้นของหุ้น AI ส่วนดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 0.3% และดัชนีดาวโจนส์ลดลง 3.5%

ร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ซึ่งมีชื่อว่า Fiscal Responsibility Act ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการด้านกฎระเบียบ(House Rules Committee)เมื่อคืนวันอังคารตามเวลาในสหรัฐด้วยมติ 7-6 และจะนำเข้าสู่การลงคะแนนของสภาผู้แทนราษฎรในเย็นวันพุธหรือเวลา 07.30 น.ในวันนี้ (1 มิ.ย.) ตามเวลาไทย

แซม สโตวัล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจาก CFRA Research กล่าวว่า ร่างกฎหมายเพดานหนี้จะผ่านสภาคองเกรสก่อนที่สหรัฐจผิดนัดชำระหนี้ แต่นักลงทุนวิตกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงและจะใช้เวลามากขึ้นหรือไม่ก่อนที่จะมีผลอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากร่างกฎหมายฯนี้ผ่านสภา นักลงทุนจะหันไปสนใจกับการประชุมเดือนมิถุนายนของเฟด

ตลาดอ่อนตัวลงหลังกระทรวงแรงงานรายงานข้อมูลการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนเมษายนว่า เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง มาที่ 10.1 ล้านตำแหน่งหลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาที่ 9.4 ล้านตำแหน่ง

ข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่าตลาดแรงงานยังตึงตัว และไม่ตกลงอย่างรวดเร็ว เพียงแต่จะทะยอยอ่อนตัวลงอย่างไม่ราบรื่น และจากข้อมูลล่าสุดตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน

นายฟิลิป เจฟเฟอร์สันหนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดและนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ให้สัญญานที่สอดคล้องกันว่า เฟดอาจจะคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่รายงานภาวะเศรษฐกิจ Beige Book ของเฟดที่สำรวจภาคธุรกิจใน 12 เขต บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตวลง เพราะจากการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อชะลอตัว ธนาคารกลางสหรัฐระบุในการสำรวจ เกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจในภูมิภาค

ขณะเดียวกันกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนลดลงมาที่ระดับต่ำสุดติดต่อกันสองเดือน ซึ่งเป็นสัญญานการฟื้นตัวหลังโควิดที่ไม่สดใส

สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) รายงานว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3.7% มาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

หุ้น Hewlett Packard ลดลงกว่า 7% หลังรายได้ไตรมาสสองต่ำกว่าเป้า และปรับลดยอดขายทั้งปีลง

นักลงทุนจับตาการรายงานการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รวมทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดอ่อนแอ ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ กลบปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อยูโรโซนที่อ่อนตัวลง

หุ้นกลุ่มสินค้าหรู และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์นำการปรับลดลง หลังจากข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนล่าสุดหดตัวเดินคาด

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 451.76 จุด ลดลง 4.87 จุด, -1.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,446.14 จุด ลดลง 75.93 จุด, -1.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,098.70 จุด ลดลง 111.05 จุด, -1.54%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,664.02 จุด ลดลง 244.89 จุด, -1.54%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 68.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.20% ปิดที่ 72.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล