HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 35.27 จุด สวนทางดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทีปรับตัวขึ้นมาได้ ท่ามกลางกังวลการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐที่ยังไม่มีข้อสรุป แต่ Nasdaq บวกได้จากการพุ่งขึ้นของ Nvidia หลังผลประกอบกาารดีกว่าคาด หนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีอื่นปรับขึ้นด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 25พฤษภาคม 2566 ที่ 32,764.65 จุด ลดลง 35.27 จุด หรือ 0.11% จากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ดัชนี Nasdaq ปิดบวกจากการพุ่งขึ้นของ Nvidia หลังรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด ซึ่งหนุนให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆปรับตัวขึ้นด้วย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.28 จุด เพิ่มขึ้น 36.04 จุด, +0.88%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,698.09 จุด เพิ่มขึ้น 213.93 จุด, +1.71%
หุ้น Nvidia ซึ่งขึ้นแท่นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) บวก 24.4% หลังรายงานกำไรไตรมาส 1 ดีกว่าคาดและคาดการณ์รายได้ 11 พันล้านดอลลาร์จากความอุปสงค์ชิปที่ใช้ในเทคโนโลยี AI ซึ่งสูงกว่า 7.15 พันล้านดอลลาร์ที่นักวิเคราะห์คาด
แดน ไอเวส จาก Wedbush บอกว่า จากประสบการณ์การวิเคราะห์หุ้นเทคโนโลยีและหุ้นใหญ่มา 22 ปี ไม่เคยเห็นการคาดการณ์ที่สูงมากขนาดนี้มาก่อนจากหุ้นใหญ่ ดังนั้นการทำเงินจาก AI ของหุ้นอื่นทั้งไมโครซอต์ อัลฟาเบท แอมะซอน ออราเคิล เมตา แอปเปิล และเซอลส์ฟอร์ซก็น่าจะดีด้วย
หุ้น AI อื่นปรับตัวขึ้นตาม โดยหุ้นอัลฟาเบทบวกกว่า 2% หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้นเกือบ 4% หุ้นAMD ผู้ผลิตชิปอีกรายเพิ่มขึ้น 11.1%
ดิแลน เครเมอร์จากCertuity กล่าวว่า ประเด็นหลักคือ นวัตกรรมในเทคโนโลยีฝ่าปัจจัยลบในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หรืออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่จัดว่าเป็น growth stocks อยู่รอด
อย่างไรก็ตามตลาดยังกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ของรัฐบาล และในวันพุธ Fitch ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ประกาศให้เครดิตพินิจของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาล(long-term foreign-currency)เป็นเชิงลบ(rating watch negative) และเตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อลงจากระดับ AAA ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีทางออกก่อนถึงวัน X-date
การเจรจาขยายเพดานหนี้ยังมีขึ้นต่อเนื่องขณะที่เข้าใกล้เส้นตายมากขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความคืบหน้า โดยทั้งสองฝ่ายเพียงแค่ต้องเห็นด้วยกับรายจ่ายจำนวน 70 พันล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจทีมีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานรายงานการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วว่า มีจำนวน 229,000 ราย ต่ำกว่า 245,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด ด้านกระทรวงพาณิชย์รายงาน ประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ว่า ขยายตัว 1.3% สูงกว่า 1.1% จากประมาณการครั้งแรก และสูงกว่า 1.1% นักวิเคราะห์คาด
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงานดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนเมษายนทรงตัวที่ 78.9 เมื่อเทียบรายเดือน
หุ้น Snowflake ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งลดลง 16.49% จากรายได้ไตรมาสสองต่ำกว่าคาด
หุ้น Best Buy บวกกว่า 3% หลังกำไรต่อหุ้นดีกว่าคาดแม้รายได้พลาดเป้า
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังไม่คืบหน้าและกลับมาวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งกลบปัจจัยบวกจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ดีกว่าคาด ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าหรูฟื้นจากที่ถูกเทขายหนักก่อนหน้านี้
มีรายงานจากสื่อว่า นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่แน่ใจว่า ผู้เจรจาของสภาคองเกรสและทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงการขยายเพดานหนี้ได้หรือไม่ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งทำให้วิตกมากขึ้นว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบวกด้วยแรงหนุนจากการคาดการณ์รายได้รายไตรมาสที่สูงกว่าประมาณการกว่า 50% ของ Nvidia บริษัทผลิตชิปของสหรัฐ
หุ้น BE Semiconductor บวก 7.6% หุ้น ASM International บวก 8.6% และหุ้น ASML Holdings บวก 5%
ตลาดหุ้นเยอรมนีลดลงหลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาสแรกของปี 2023 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญานของการถดถอย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 456.18 จุด ลดลง 1.47 จุด, -0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,570.87 จุด ลดลง 56.23 จุด, -0.74%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,229.27 จุด ลดลง 24.19 จุด, -0.33%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,793.80 จุด ลดลง 48.33 จุด, -0.31%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลง 2.51 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.38% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 2.10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.68% ปิดที่ 76.26 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล