GABLE แจกส่วนลดราคาเพียบ หุ้น TECH คล้าย BBIK-BE8

HoonSmart.com>>ในปี 2566 มีหุ้นน้องใหม่ถึง 9 บริษัทจากทั้งหมด 14 บริษัท ราคาต่ำกว่าราคาขาย IPO ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะตลาดไม่เป็นใจ  ดัชนี SET ร่วงลง -8.11% และดัชนี mai ดิ่งแรงถึง -14.52% ณ วันที่ 3 พ.ค.เทียบกับสิ้นปี 2565 การตั้งราคาขายหุ้นต้องให้ส่วนลดมากเป็นพิเศษ เช่น บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC เดิมตั้งใจขายหุ้นละ 8 บาทก่อนที่จะปรับลดลงเหลือ 7.95 บาท บริษัท จีเอเบิล (GABLE) เดิมตั้งใจจะขายหุ้นละ 8.50 บาท ก่อนจะเคาะราคาสุดท้ายที่ 6.39 บาท P/E เฉลี่ย 16.82 เท่า แต่ทำธุรกิจคล้าย BE8 และ BBIK เทรดทื่ P/E กว่า 80 เท่า

“สมภพ กีระสุนทรพงษ์”กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท จีเอเบิล (GABLE) กล่าวว่า ราคาที่หุ้นละ 8.50 บาท เป็นราคาเฉลี่ยของมูลค่าเหมาะสมที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ แต่เมื่อพิจารณาถึงภาวะตลาดหุ้นที่มีความผันผวน ไม่แข็งแรง สะท้อนจากดัชนีที่เคลื่อนไหวบริเวณ 1,600 จุด ก่อนจะปรับตัวลงมาบริเวณ 1,500 จุดเศษอย่างรวดเร็ว จึงต้องให้ส่วนลดราคามาก และยิ่งมีการเสนอขายหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบัน การกำหนดราคาก็ต้องมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจสูง ซึ่งการเสนอขายหุ้นในราคา 6.39 บาท ก็ได้รับการตอบรับที่ดี มีความต้องการล้นกว่าที่เสนอขายให้สถาบัน

นอกจากนี้ บริษัท จีเอเบิล หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ มีประวัติการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 33 ปี แต่ธุรกิจเทคโนโลยีเข้าใจไม่ง่าย นักลงทุนอาจจะเข้าใจว่าทำธุรกิจคล้ายกับบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) และบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) ที่เทรดระดับ P/E 16 เท่า ขณะที่จีเอเบิลมีสินค้าและบริการหลากหลาย ธุรกิจมีส่วนคล้ายกับ บริษัทเบริล 8 พลัส (BE8) และ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ที่ราคาหุ้นเทรดที่ P/E มากกว่า 80 เท่าถึง 100 เท่า

“เราตั้งราคาขายหุ้นที่ 6.39 บาท ขณะที่ผู้บริหารต้องการสูงกว่านี้ แต่เราให้ไม่ได้  เพราะตลาดหุ้นอ่อนแอ ต้องให้ส่วนลดเยอะ GABLE มีซอฟท์แวร์แพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาเอง อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยสูงกว่า 50% ปัจจุบันแม้ว่ารายได้จากธุรกิจนี้ยังมีสัดส่วนน้อย แต่จะมีสัดส่วนกำไรสูงในอนาคต  บริษัทกำลังเดินไปสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตแบบ Growth Engine มีข้อดีที่ฐานลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในเกือบทุกเซคเตอร์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และตอบโจทย์ธุรกิจในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้วยบริการที่ครบวงจร ที่สำคัญการซื้อไลเซนส์ของจีเอเบิล ถูกกว่าของต่างประเทศเกือบ 10 เท่า”

ทั้งนี้ GABLE เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 175 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท พร้อมจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ในวันที่ 9 พ.ค.2566 ในกลุ่มเทคโนโลยี / หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ  บริษัทได้รับเงินประมาณ 1,118 ล้านบาท  นำไปชำระคืนหนี้ 280 ล้านบาทภายในปีนี้ ส่วนปี 67 ใช้ขยายธุรกิจ 560 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียน 232 ล้านบาท บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแรง สัดส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน(D/E) ต่ำเพียง 0.6 เท่า มี Recurring income (รายได้ประจำสม่ำเสมอ) สูงถึง  51% เมื่อสิ้นปี 2565  งานในมือที่มีอยู่ (Backlog) จำนวนกว่า 4,100 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 2,900 ล้านบาท

GABLE ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล โดยมุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัล ประกอบด้วย 1.โซลูชั่นด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution) 2.โซลูชั่นด้านระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ (Cloud and Data Center Modernization Solution) 3.โซลูชั่นด้านระบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data and Analytics Solution) 4.โซลูชั่นด้านธุรกิจดิจิทัล (Digital Business and Application Solution) 5.โซลูชั่นด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ (Managed Tech Services Solution)

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไม่ดีส่งผลกระทบต่อจำนวนบริษัทเข้าใหม่ในปีนี้หรือไม่ว่า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนมี 3 ปัจจัยคือ  1.ความพร้อมของบริษัท 2. ความจำเป็นในการใช้เงินลงทุน3. ภาวะตลาดหุ้น หากบริษัทมีความพร้อมและมีความจำเป็นต้องการใช้เงิน ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรก็ต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์  และการกำหนดราคาขายก็ต้องพิจารณาภาวะตลาดประกอบด้วย ในการให้ส่วนลดให้กับนักลงทุน

ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใน SET และใน mai มากกว่า 100  บริษัท ในปี 2566 นายแมนพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่แสดงความสนใจเข้าจดทะเบียนแล้วประมาณ 70-80 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะพร้อมเข้ามาจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่องบการเงินงวดไตรมาสแรกและครึ่งปีออกมาแล้ว

ด้านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ รายงานว่า ปัจจุบันมี 1 บริษัทที่จะเข้า SET แบบไฟลิ่งมีผลบังคับใช้แล้ว  ส่วนบริษัทได้รับอนุญาตแบบคำขอให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่แล้ว 8 บริษัท แบ่งเป็นเข้า SET  6 บริษัทและ  2 บริษัท เข้า mai โดยมีบริษัทยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว เพื่อเข้า SET 17 บริษัท และ mai 13  บริษัท