HoonSmart.com>>”ราชกรุ๊ป”ลั่นรายได้-กำไรปี 2563 โตต่อเนื่อง วางแผนใช้เงิน 1 หมื่นล้านบาทควบรวมกิจการ อีก 1 หมื่นล้านบาทลงทุนต่อเนื่อง คาดไตรมาส 3 เคาะโรงไฟฟ้า 1 ดีล เพิ่มกำลังการผลิตอีก 780 เมกะวัตต์ เป็น 8,715.07 เมกะวัตต์ ลงทุนโครงการสาธารณูปโภคให้ถึง 5% ของเงินลงทุน
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH) แถลงว่า ในปี 2563 บริษัทฯ ได้จัดสรรเงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดย 1 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการเดิมที่ลงทุนไว้แล้ว และอีก 1 หมื่นล้านบาท จะเป็นการควบรวมกิจการ คาดว่าจะสามารถสรุปการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศและต่างประเทศอย่างน้อย 5 โครงการ ในไตรมาส 1 จะเห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 โครงการ การควบรวมกิจการ บริษัทฯ เน้นการลงทุนที่ดำเนินงานแล้ว เพื่อให้สามารถรับรู้ผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่ากิจการได้เร็วขึ้น ทั้งนี้บริษัทได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท รองรับการลงทุนโครงการต่างๆ แล้ว
สำหรับเป้าหมายกำลังการผลิตในปีนี้ที่ 780 เมกะวัตต์ (MW) รวมเป็น 8,715.07 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมหินกอง กำลังการผลิต 714 เมกะวัตต์ จะเข้ามาทดแทนกำลังการโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ที่จะปลดจากระบบในเดือนก.ค. มีกำลังการผลิต 720 MW และยังมีโครงการที่กำลังเจรจา
ส่วนการร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา ( O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) ในรูปแบบ PPP Gross Cost ระยะเวลา 30 ปี ซึ่งบริษัทฯ เข้าร่วมประมูลในนามกิจการร่วมค้า BGSR คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในกลางปีนี้ มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายกิจจากล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ 43,220.07 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,963.28 ล้านบาท มาจากโรงไฟฟ้านวนครส่วนขยาย กำลังการผลิต 23.99 MW บริษัทถือหุ้น 40% และโรงไฟฟ้าพลังงานลมยานดิน กำลังการผลิต 149.94 MW บริษัทถือหุ้น 70% ทั้ง 2 โรงไฟฟ้าคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD)ได้ในเดือนก.ย. และยังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องในปี 2562 เต็มปี
ในปี 2562 บริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6.7% มาจากรายได้หลัก 3 ส่วนสำคัญ คือ รายได้จากการขายและบริการและรายได้ตามสัญญาเช่าการเงินของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ควบคุมจำนวน 38,364.34 ล้านบาท รายได้จากส่วนแบ่งจากส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมทุน จำนวน 3,968.38 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและอื่นๆ จำนวน 887.35 ล้านบาท
คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 2562 หุ้นละ 2.40 บาท รวมเป็นเงิน 3,480 ล้านบาท