HoonSmart.com>>แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสฯ ผู้นำเทคโนโลยี 5G เต็มรูปแบบ ยันสถานะการเงินดี มีเงินจ่ายค่าใบอนุญาต ขยายการลงทุน ตอบแทนเงินปันผล พร้อมให้บริการ ตอบโจทย์ความต้องการ ยกระดับอุตสาหกรรม-สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) เปิดเผยว่า บริษัทประมาณการงบลงทุนเบื้องต้นจำนวน 1-1.5 หมื่นล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อจัดให้มีโครงข่ายการให้บริการ 5G ในพื้นที่สำคัญต่างๆ
บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ADVANC ถือหุ้น 99.99% ได้สิทธิได้รับใบอนุญาตย่านคลื่นความถี่ 733MHz-738MHz คู่กับ 788MHz-793MHz แถบความกว้าง 2x5MHz ราคาประมูล 17,154 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ชำระเงินงวดแรกภายใน 15 วัน ก่อนวันเริ่มต้นการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่วันที่ 1 เม.ย.2564
ย่านความถี่ 2500-2600MHz แถบความกว้าง 100MHz ราคาประมูล 19,561 ล้านบาท ชำระเงินงวดแรกภายใน 90 วันจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล และย่านความถี่ 25.2-26.4GHz แถบความกว้าง 1200MHz ราคาประมูล 5,345 ล้านบาท ชำระเงินภายใน 1 ปี นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล
บริษัทมีสถานะการเงินที่ดี และงวดการจ่ายค่าใบอนุญาตส่วนใหญ่มีระยะเวลา 10 ปี บริษัทสามารถใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดจากการประกอบธุรกิจ รวมถึงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือ การออกหุ้นกู้ ซึ่งไม่กระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ในรอบปี 2562 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (หลังหักภาษี) รวม 76,627 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการจัดสรรเงินลงทุนและการจ่ายเงินปันผล ณ สิ้นงวดวันที่ 31 ธ.ค.2563 บริษัทมีเงินกู้ยืมรวม 94,184 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 1.36 เท่า และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรก่อนภาษีและค่าเสื่อมที่ 0.92 เท่า แสดงถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุนและความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มเติม
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัท หลังได้คลื่นความถี่ทั้งสามย่านเข้ามาเสริมศักยภาพของบริการ 5G ได้อย่างครบถ้วน เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5G เต็มรูปแบบในอีก 10 ปีข้างหน้า จะช่วยผลักดันให้บริษัทก้าวสู่มิติใหม่ที่จะส่งมอบบริการดิจิตอลที่สร้างความแตกต่างในแง่ประสบการณ์ของลูกค้า รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในภาคอุตสาหกรรมและสังคม
“เราจะมีศักยภาพของบริการ 5G ได้อย่างครบถ้วน ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าองค์กร อาทิ เทคโนโลยีภาพเสมือนจริง ( Augmented reality/Virtual reality) สำหรับสื่อบันเทิงและเกมส์, บริการด้าน IoT หรือการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต, บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สาย (Fixed Wireless Broadband) เป็นต้น จะเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับธุรกิจโทรคมนาคมในอนาคต โดยเฉพาะการขยายบริการใหม่ๆ เข้าสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักที่บริษัทต้องการและยังสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละคลื่นนั้นมีคุณสมบัติเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน จะส่งเสริมให้มีความจุโครงข่ายมากขึ้น และช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้น”บริษัทแอดวานซ์ฯระบุ
ในระยะแรกของการพัฒนาของบริการ 5G ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นนั้น คลื่น 700MHz และ 2600MHz ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ได้กับทั้งเทคโนโลยี 4G และ 5G สามารถนำมาเสริมการใช้งานในโครงข่ายปัจจุบันได้ เพื่อขยายความจุโครงข่ายและความครอบคลุม และช่วยประหยัดการลงทุน อีกทั้งยังช่วยเสริมศักยภาพของการบริหารจัดการโครงข่าย และเสริมคุณภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป ADVANC เปิดเผยว่า บริษัทยังคงยืนหยัดผู้นำอันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการ 4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวม 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพันธมิตร) บริษัทจะมีขีดความสามารถที่จะส่งมอบบริการและโซลูชันส์คุณภาพดีที่สุด จากปริมาณคลื่นความถี่หรือแบนด์วิธ ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลก เพื่อให้สามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศได้มากยิ่งกว่าใครในอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ 5G คือ เทคโนโลยีที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แข็งแกร่งและนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้นตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ ที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมทดลองกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมหลักๆมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ภาคการผลิต, ภาคขนส่ง, ภาคคมนาคม, ภาคสาธารณสุข, ภาคการศึกษา,ฯลฯ จนมีความรู้และประสบการณ์ที่สามารถจะนำมาสร้างสรรค์รูปแบบบริการได้อย่างตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้ทันที จึงพร้อมนำ 5G เข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง เพื่อปฏิวัติการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ซึ่งได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบัง, อมตะนคร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศรีราชา, ฯลฯ
ด้าน นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ ADVANC กล่าวว่า เครือข่ายของบริษัทมีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ ออกแบบโซลูชันส์ , ปรับเปลี่ยน เพื่อตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเครือข่ายจะมีความเร็วสูงกว่าถึง 24 เท่า และมีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งานมากกว่าถึง 30 เท่า และมี Latency ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า
ในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% รายได้โตมาจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าระบบรายเดือนและอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง ส่งผลให้กำไรสุทธิ 31,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% จากปี 2561
