ดาวโจนส์ปิดลบ 165 จุด แอปเปิลส่งซิกรายได้พลาดเป้าจากไวรัสระบาด

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 165 จุด “แอปเปิล” แถลงรายได้ไตรมาส 2 อาจพลาดเป้าจากไวรัสแพร่ระบาด นักลงทุนกังวลกระทบเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วง ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ 29,232.19 จุด ลดลง 165.89 จุด หรือ 0.56% จากที่กลับมาเปิดซื้อขายหลังวันหยุดยาวหลังแอปเปิล อิ้งค์ ประกาศว่าผลการดำเนินงานไตรมาสสองจะไม่เป็นไปตามคาด เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดที่ต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนกังวลต่อว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้ห่วงโซ่การผลิตชะงักงัน และมีผลต่อเนื่องกับเศรษฐกิจและตลาดเงินโลก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,370.29 จุด ลดลง 9.87 จุด,+0.29%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,732.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด,+0.02%

ในแถลงการณ์แอปเปิลระบุว่า เป้าหมายรายได้เดือนมกราคม-มีนาคม ซึ่งเป็นไตรมาสสองของงบการเงินที่วางไว้ 63-67 พันล้านดอลลาร์จะไม่เป็นตามคาด เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดที่ต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19

ธนาคารกลาง (เฟด) สาขานิวยอร์กเผย ดัชนีภาคการผลิต(Empire State Index) เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 12.9 สูงสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ(NAHB) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลงมาที่ระดับ 74 แต่ยังคงเริ่มต้นปีอย่างแข็งแกร่ง

นายโรเบิร์ต แคปลัน ประธานเฟดประเมินว่าบริษัทในธุรกิจพลังงาน ทั้งน้ำมันและแก๊สอาจจะต้องรัดเข็มขัดและปรับโครงสร้าง เพราะการผลิตในประเทศจะลดลง

หุ้นแอปเปิลลดลง 1.83% หุ้นควอลคอมม์ลดลง 1.75% หุ้นบรอดคอมลดลง 2.2%

หุ้นผู้ผลิตชิปลดลง โดยหุ้นอินเทลดลง 1.68% หุ้นไมครอนเทคโนโลยีลดลง 1.28%

หุ้นเบ็ด บาธแอนด์บียอนด์เพิ่มขึ้น 5.37% หลังประกาศขายกิจการ PersonalizationMall.com ให้กับ 1-800-Flowers.com

หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ลดลง 0.62% จากรายงานของดิวอลล์ สตรีท เจอร์นัลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจจะห้ามบริษัทฯไม่ให้ขายเครื่องยนต์เครื่องบินเจ็ทให้จีน

หุ้นวอล์มาร์ท บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลกเพิ่มขึ้น 1.48% จากกำไรสุทธิไตรมาสสี่เพิ่มขึ้น แม้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นเมซส์ อิ้งค์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ลดลง 3.6% หลังเอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทไปที่ระดับ Junk

หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้น 7.3% หลังนักวิเคราะห์เบิร์นสไตน์ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า เป็น 730 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังแอปเปิล อิ้งค์ ประกาศเตือนว่ารายได้ไตรมาสแรกจะไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากผลการแพร่ระบาดที่ต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 แต่กลุ่มเทคโนโลยีกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แต่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 2.1%

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ลดลงโดยหุ้น ไดอะล็อก เซมิคอนดักเตอร์และหุ้น เอเอสเอ็มไอต่างลดลงมากกว่า 4%

เมื่อวันนี้รัฐมนตรีคลังยูโรโซนประชุมร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวการใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีผลต่อเศรษฐกิจอ่อนตัวลงอีก

ในอังกฤษ การจ้างงานไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 เพิ่มขึ้น และรายได้รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 2.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นน้อยสุดนับตั้งแต่ ไตรมาสสาม ปี 2018

ในเยอรมนี ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาที่ 8.7 จาก 26.7 ในเดือนมกราคม

เอชเอสบีซีลดลงเกือบ 7% หลังรายงานกำไรก่อนภาษีลดลง 32.9% รวมทั้งประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่โดยจะลดพนักงานลง 35,000 รายในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,482.01 จุด ลดลง 51.24 จุด,-0.69%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 430.33 จุด ลดลง 1.65 จุด, -0.38%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,056.82 จุด ลดลง 29.12 จุด,0.48%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,681.19 จุด ลดลง 102.70 จุด,-0.75%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมไม่เปลี่ยนแปลงปิดที่ 52.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 43 เซนต์ปิดที่ 57.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล