KTC ปี 62 กำไร 5.5 พันลบ. โต 7.5% รายได้เพิ่ม-หนี้เสียลด ปันผล 0.88 บาท

HoonSmart.com>> “บัตรกรุงไทย” โชว์กำไรปี 62 กว่า 5,524 ล้านบาท เติบโต 7.5% จากงวดปีก่อน สร้างสถิติกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องปีที่ 7 กวาดรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%  ด้านหนี้เสียลดลงเหลือ 1.06% บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.88 บาท/หุ้น ขึ้น XD 16 เม.ย.63 พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้ไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท รองรับขยายธุรกิจ รีไฟแนนซ์หนี้

บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562  มีกำไรสุทธิ 5,524.07 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.14 บาท เพิ่มขึ้น 7.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,139.59 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.99 บาท

ปี 2562 เป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทยังคงเติบโตของกำไรต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ถือได้ว่าเป็นการสร้างสถิติครั้งใหม่ของบริษัท โดยมีรายได้รวมขยายตัว 6.7% แม้จะอยู่ภายใต้ความกดดันของสภาวะการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากกระแสดิจิทัลรัปชั่นด้วยผลกระทบจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยจะเน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว ตลอดจนความเข้มงวดของกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งเป็นผลให้บริษัทต้องปรับตัวและปรับปรุงแผนธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เคทีซีสามารถสามารถทำกำไรสุทธิสูงสุดประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 เนื่องจากความสามารถในการปรับตัว  ปริมาณการใช้จ่ายบัตรมีอัตราเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมและมีอัตราเติบโตของยอดลูกหนี้ธุรกิจบัตรเครดิตสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีการควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ที่ดีต่อเนื่อง ประกอบกับแนวทางการติดตามหนี้ที่ยังคงความมีประสิทธิภาพ ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม

บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 22,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากงวดปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ย (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) เพิ่ม 8% รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่ม 5% และรายได้หนี้สูญได้รับคืนเพิ่ม 5% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 2562 เท่ากับ 15.1% เนื่องจากค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยรับลดลง 17.99% เป็น 17.80% โดยต้นทุนเงินลดลงจาก 2.89% เป็น 2.81% ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่แตกต่างไปจากเดิม

นอกจากนี้การควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้ดี NPL ลูกหนี้รวมลดลงเหลือ 1.06% จากเดิม 1.14% ณ สิ้นปี 2561 หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญมีจำนวน 6,433 ล้านบาท เพิ่ม 13% จากงวดปีก่อนจากการขยายตัวของพอร์ตและการตัดหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น โดยสัดส่วนของค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL ยังคงมูลค่าสูงอยู่ที่ 620%

ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้เท่ากับ 25.3% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 26.6% แสดงให้เห็นว่าบริษัทยังสามารถควบคุมสัดส่วนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2563 อนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นจากผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.2562-31 ธ.ค.2562 ในอัตราหุ้นละ 0.88 บาท  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,268.94 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 17 เม.ย. 2563 ขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย.2563 และจ่ายเงินในวันที่ 30 เม.ย. 2563

นอกจากนี้อนุมัติออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ภายในวงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท หรือเงินในสกุลอื่นในอัตราเทียบเท่า เสนอขายภายในประเทศต่อประชาชนทั่วไปและหรือเสนอขายในวงจำกัดและหรือเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนประเภทสถาบันและหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ทั้งหมดหรือบางส่วน

วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) หรือเพื่อนำไปใช้ในการลงทุน ให้กู้ยืมแก่บริษัทลูกของบริษัท