ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones industrial average) ปิดตลาดวันที่ 6 มิถุนายน ที่ 25,146.39 เพิ่มขึ้น 346.41 จุด หรือ 1.40% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารนำโดย เจ พี มอร์แกน แบงก์ ออฟอเมริกา โกลด์แมน แซคส์ ที่ปรับเพิ่มขึ้นร่วม 2% เพราะนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นโบอิ้งที่พุ่ง 3.2% ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ยืนที่เหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้งนับจากกลางเดือนมีนาคม
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.98% หลังจากที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรปส่งสัญญานที่จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการ QE
ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นต่อเนื่องสร้างสถิติใหม่ปรับตัวขึ้นกว่า 6% ในเดือนที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนหันมาลงทุนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,772.35 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด, +0.86%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,689.24 จุด เพิ่มขึ้น 51.38 จุด,+0.67%
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากที่ธนาคารกลางสหภาพยุโรปส่งสัญญานที่จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE โดยจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า นักลงทุนยังวิตกต่อสถานการณ์คลังของอิตาลี เพราะหากมีการลดวงเงินการซื้อพันธบัตรจะมีผลต่อการขายพันธบัตรของอิตาลี
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,712.37 จุด เพิ่มขึ้น 25.57 จุด,+0.33%
ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปิดที่ 386.88 จุด ลดลง 0.01 จุด, แทบไม่เปลี่ยนแปลง
ดัชนี DAX 30 ปิดที่จุด 12,830.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.94 จุด, +0.34%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,457.56 จุด ลดลง 3.39 จุด, -0.06%