HoonSmart.com>>ธปท.ยันค่าเงินบาทนิ่ง ไม่ได้เข้าแทรกแซง เห็นสัญญาณแนวโน้มพลิกกลับมาอ่อนค่า นักลงทุนในตลาดโลกเปลี่ยนมุมมอง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลง ผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศปรับพอร์ตจากซื้อเป็นขาย ผู้นำเข้าต้องทำประกันความเสี่ยง หากเปลี่ยนทางแรงจะเสียโอกาส
นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท แต่ช่วงหลังค่อนข้างนิ่ง ตลาดมองว่าจะไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้ ซึ่งมีแนวโน้มค่าเงินของภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง นักลงทุนในตลาดโลกเลือกที่จะเปลี่ยนมุมมองทิศทางของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงค่าเงินบาทด้วย
ธปท. ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทมาโดยตลอด ก่อนหน้ายังไม่มั่นใจว่าจะกลับทิศทางหรือไม่ แต่ตอนนี้มีความชัดเจนมากขึ้น สอดคล้องกับนักวิเคราะห์หลายสำนัก คิดว่าโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงมีมากขึ้น สถานะของผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ จากเดิมที่เคย long (ซื้อ)ค่าบาท ก็เริ่มกลับ Short(ขาย) ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และแรงกดดันดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มลดลง ส่วนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา แม้จะไม่มีผลต่อค่าเงินบาทโดยตรง แต่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของทิศทางค่าเงินบาทในช่วงต่อไป
“จะอ่อนลงไปถึง 32-33 บาทนั้นเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก แต่เคลื่อนไหวในทางอ่อนค่านั้นโอกาสจะมีมากขึ้นกว่าเดิม มีทิศทางการเคลื่อนไหว 2 ทิศทางมากขึ้น ไม่ใช่ทางเดียวเหมือนในอดีต บทวิเคราะห์ของหลาย ๆ ฝ่าย มองว่าตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะค่าเงินบาทจะไม่ Safe Heaven เหมือนในอดีต ดูจากภาพรวมก็แข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานไปค่อนข้างเยอะแล้ว นักลงทุนก็เริ่มคิดได้ว่าถ้าลงทุนในประเทศที่ค่าเงินแข็งไปทำไม เพราะโอกาสถูกตีกลับก็จะมีเยอะ และผลตอบแทนจากดอกเบี้ยแทบจะไม่มีแล้ว รวมทั้งท่าทีของ ธปท. ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน”นายเมธีกล่าว
นอกจากนี้นักวิเคราะห์บอกว่าให้ผู้นำเข้าต้องทำประกันความเสี่ยง ไม่ใช่รอค่าเงินแข็งแล้วค่อยไปทำ เพราะหากมีการเปลี่ยนทางแรงขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องเสียโอกาส ส่วนเงินบาทอ่อนยังไม่น่าจะช่วยเรื่องการส่งออกได้มากนัก แต่อย่างน้อยก็จะช่วยให้ผู้ส่งออกมองทิศทางในอนาคตว่าค่าเงินบาทสามารถเคลื่อนไหวในลักษณะที่อ่อนตัวลงได้มากขึ้น”นายเมธีกล่าว