HoonSmart.com>> บล.เคทีบี ชี้ตลาดรวมไม่สดใส ฉุดหุ้น STC เข้าเทรดวันแรกปิดต่ำจอง 13% มั่นใจพื้นฐานแกร่ง ศักยภาพเติบโตรับ EEC
หุ้นไอพีโอน้องใหม่ STC (เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์) เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 29 พ.ย.2562 ปิดตลาดที่ราคา 0.87 บาท ลดลง 0.13 บาท หรือ -13% จากราคาเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หุ้นละ 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76.03 ล้านบาท จากราคาเปิด 0.96 บาทและขึ้นไปสูงสุด 0.98 บาท ต่ำสุด 0.86 บาท
นางสุนิต วิสุทธิโกศล กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 29 พ.ย.2562 ที่ปรับลดลง คาดว่าเป็นอีกปัจจัยกระทบหุ้นไอพีโอของ STC ที่เข้าซื้อขายเป็นวันแรก
อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต จะสามารถเรียกความเชื่อมั่น และทำให้ STC ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในระยะยาว ด้วยจุดเด่นของธุรกิจอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ทำเลที่ตั้งโรงงานเหมาะสม พร้อมขยายกำลังการผลิต รับการลงทุนในภาคตะวันออก
สำหรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น นับเป็นโอกาสอันสำคัญให้ STC เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก เงินที่ได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้เงินประมาณ 141.30 ล้านบาท นำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขยายตัวของอุตสาหกรรมงานก่อสร้าง งานระบบระบายน้ำ งานนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคตะวันออกที่กำลังขยายตัว เป้าหมายเป็นอีกหุ้น Growth Stock ที่ได้อานิสงส์จากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC และเป็น Dividend Stock ที่มีนโยบายการจ่ายปันผล ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%
นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองแนวโน้มการเติบโตในปีนี้สดใส ผลประกอบการไตรมาส 4/2562 เป็นไฮซีซั่นธุรกิจ ในช่วงดือนตุลาคม และพฤศจิกายน 2562 มีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาจำนวนมาก และการทยอยส่งมอบงานเป็นไปตามแผนงานที่ STC วางไว้ ประกอบกับ ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2562 กำไรสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยทำนิวไฮอยู่ที่ 17.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 5.58 ล้านบาท รายได้รวมอยู่ที่ 303.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 273.09 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นอยู่ที่ 31.78% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 5.91% สะท้อนแผนการขยายกำลังการผลิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง เข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานปี 2562 เต็มปี ควบคู่กับการมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ โฟกัสสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และพร้อมแล้วที่จะรับโอกาสจากงานโครงการของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะ EEC สนับสนุนให้ปี 2562 นี้กำไรทุบสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ควบคู่กับการรักษาการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต