HoonSmart.com.com>> “ศรีสวัสดิ์” อวดกำไรไตรมาส 3/62 โตทะลุพันล้าน ทำสถิติสูงสุดใหม่ พอร์ตลูกหนี้โต 3.3 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นเฉียด 25% จากงวดปีก่อน กดเอ็นพีแอลลดเหลือ 4.3% ลั่นบริหารหนี้มีประสิทธิภาพ เน้นการเจรจาและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ประเมินโค้งสุดท้ายกำไรโตต่อเนื่อง รายได้ตามเป้าเพิ่มขึ้น 20-30%
น.ส.ธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรรวมสุทธิ 1,006.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 179.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.66% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 827.36 ล้านบาท
รายได้ดอกเบี้ยงวดไตรมาส 3/2562 มีจำนวน 1,909.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378.15 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น24.69% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2561 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย1,531.78 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้จาก 27,029.64 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2561 เพิ่มขึ้นมาเป็น 33,614.44 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2562 หรือเพิ่มขึ้น 24.36% ขณะที่รายได้อื่นๆ ก็ปรับเพิ่มขึ้นจาก 574.25 ล้านบาท เป็น 631.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
“กำไรในไตรมาส 3/2562 ของ SAWAD แตะหลักพันล้าน ถือว่าเป็นการทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่หรือ New High ซี่งก็เป็นผลมาจากการที่พอร์ตลูกหนี้เติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายหลักของบริษัทที่มีการขยายสาขาต่อเนื่องให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ บริษัทตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาให้ได้ จำนวน 4,200 สาขา ในปี 2563 ”น.ส.ธิดา กล่าว
สำหรับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในงวดสิ้นสุดเดือนก.ย.2562 ปรับตัวลดลงเหลือระดับ 4.31% จากงวดเดียวกันของปี 2561 ที่มีเอ็นพีแอลในระดับ 5.02% การปรับลดลงของเอ็นพีแอล เนื่องจากบริษัทมีระบบการบริหารหนี้และติดตามหนี้มีประสิทธิภาพ ขณะที่มีหนี้สูญและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 164.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.27 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 115.35 ล้านบาท ซี่งเป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ
“การดูแลลูกค้าที่ผิดนัดชำระ SAWAD จะเน้นการเจรจา และมีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้าทั้งหมดอยู่ในช่วงเวลาการค้างชำระสูงสุดไม่เกิน 90 วัน”น.ส.ธิดา กล่าว
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานโค้งสุดท้ายของปี 2562 บริษัทประเมินว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากบริษัทยังมีการขยายสาขาต่อเนื่อง และลูกค้ายังมีความต้องการใช้เงิน ทั้งในส่วนที่เติมสภาพคล่อง และส่วนที่ต้องการขยายกิจการ โดยตั้งเป้าหมายว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 20% – 30%