HoonSmart.com>> หุ้น RBF เคาะราคา 3.30 บาท ขาย 520 ล้านหุ้น หลังเดินสายโรดโชว์นักลงทุนสถาบัน กองทุนทั้งใน-ต่างประเทศ พร้อมเปิดจอง 16-18 ต.ค เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 24 ต.ค.นี้ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม APM ที่ปรึกษาการเงิน ชูจุดแข็งทีมวิจัยและพัฒนา เชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านวิเคราะห์กลิ่นและรสชาติอาหารครบวงจร มากกว่าผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม และคู่แข่งที่เป็นบริษัทต่างชาติทั้งหมด
บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซับพลาย ( RBF ) เซ็นสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส และบล.กสิกรไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก ( IPO ) จำนวน 520 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท (พาร์ ) เสนอขายระหว่างวันที่ 16-18 ต.ค.และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 24 ต.ค.นี้ ใช้ชื่อย่อ ” RBF ” โดยอยู่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ราคาเสนอขาย 3.30 บาท มาจากการสำรวจความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน ( (Book Building ) ความต้องการซื้อ 12.4 เท่าของหุ้นที่จัดสรรสถาบัน โดยราคาขายมีพี/อี 22 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิในรอบ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ( 1 ก.ค.61- 30 มิ.ย.62 )
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ RBF กล่าวว่า RBF ได้นำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) กองทุนและสถาบันในประเทศ 22 กองทุน ต่างประเทศ สิงคโปร์และญี่ปุ่นจำนวน 6 กองทุน รวมทั้งโรดโชว์ในประเทศ 15 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีความเข้าใจและรู้จักธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM กล่าวว่า RBF มีจุดแข็งทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านอาหาร การวิเคราะห์กลิ่นและรสชาติอาหาร มีความหลากหลายและครบวงจร มากกว่าผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม และคู่แข่งที่เป็นบริษัทต่างชาติทั้งหมด
สำหรับผลิตภัณฑ์ของ RBF แบ่งเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและรส และสีผสมอาหาร กลุ่มแป้งและซอส กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาเพื่อจำหน่าย
ผลการดำเนินงานปี 61 มีรายได้รวม 2,738.25 ล้านบาท กำไรสุทธิ 321.11 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปี 62 มีรายได้รวม 1,412.82 ล้านบาท กำไรสุทธิ 147.23 ล้านบาท
นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RBF กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปก่อสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายเกล็ดขนมปังและแป้งประกอบอาหาร ณ เมืองสุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 200 – 250 ล้านบาท แล้วเสร็จมีรายได้เข้ามาภายในปี 2565
นอกจากนี้ นำไปปรับปรุงและซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม ทั้งเครื่องจักรผลิตเกล็ดขนมปัง เครื่องจักรผลิตแป้งทอดกรอบ เครื่องจักรในการผลิตวัตถุแต่งกลิ่นรสแบบอัตโนมัติ มูลค่าประมาณ 130 ล้านบาท ลงทุนเปิดบริษัทตัวแทนและห้องทดลองในต่างประเทศ มูลค่า 25 ล้านบาท ที่เหลือชำระคืนเงินกู้และเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า บริษัท ฯ ไปเปิดตลาดที่ประเทศอินโดนีเซียแล้ว โดยเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคต จึงลงทุนก่อสร้างโรงงานในเมืองสุราบายา เชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างมาก สามารถแข่งขันกับคู่แข่งท้องถิ่นได้มากขึ้น