HoonSmart.com>> บลจ.ทิสโก้ เพิ่มทุนกองทุน “ทิสโก้ อินคัม พลัส” จาก 5,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท ตอบรับกระแสนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก หลังเศรษฐกิจเริ่มชะลอ อัตราดอกเบี้ยขาลง และหุ้นผันผวน หวังให้มืออาชีพช่วยจัดพอร์ต กระจายสินทรัพย์ลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้นักวิเคราะห์ทยอยปรับลดอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นทั่วโลกยังคงผันผวน ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้อย่างเดียวอาจได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีนัก และในระยะยาวผลตอบแทนอาจไม่เพียงพอกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนที่ไม่มีเวลาศึกษาการลงทุนให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมผสมอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุเนื่องจากกองทุนมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพช่วยจัดพอร์ต และยังสามารถกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว ซึ่งการกระจายสินทรัพย์การลงทุนที่ดีจะช่วยให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว จึงทำให้กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TINC) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมจึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อตอบรับความต้องการ และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า บลจ.ทิสโก้จึงได้ขยายมูลค่าโครงการจากเดิม 5,000 ล้านบาทเป็น 7,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุน กองทุน TINC ได้ในทุกวันทำการ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
“ในปี 2562 เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้ทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกเปลี่ยนทิศกลับมาเป็นเป็นขาลง นำร่องโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้ง สู่ระดับ 1.75-2.00% จากที่ระดับ 2.25-2.50% ยุโรปก็ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมาสู่ระดับติดลบ 0.50% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็ได้ปรับลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสู่ระดับ 1.50% ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนสูง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ในขณะเดียวกันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำก็ให้ผลตอบแทนน้อยลงตามทิศทางดอกเบี้ย ทำให้ผู้ลงทุนหันมาสนใจกองทุนผสมที่ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์มากขึ้น เพราะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ไม่สูงมาก และมีความเสี่ยงหรือมีความผันผวนไม่สูงเท่ากองทุนที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้น 100% แต่สามารถคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในเงินฝากหรือตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว”นายสาห์รัช กล่าว
สำหรับสาเหตุที่นักลงทุนให้การตอบรับกองทุนเปิด TINC นั้น นอกจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในหลากสินทรัพย์การลงทุนแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เปิดเสนอขายให้นักลงทุน กองทุนเปิด TINC สามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น จนได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morning Stars (ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 62) เป็นเครื่องยืนยันผลงาน อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิใช่สิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนเปิด TINC ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน เงินฝาก รวมไปถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในและต่างประเทศ กองทุนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตรับความผันผวน เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี กองทุนเปิด TINC อาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม