HoonSmart.com>> กองทรัสต์ DREIT เปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน 13-23 ก.ย.นี้ เคาะราคาไม่เกิน 5.90 บาท/หน่วย คาดผลตอบแทน 8.07% เตรียมนำเงินลงทุน ‘ดุสิตธานี มัลดีฟส์’ อัตราเข้าพักเฉลี่ยปี 61 สูง 84.43% หนุนเติบโตแข็งแกร่ง กระจายรายได้จากปัจจุบันอยู่ในประเทศ
นายสานต่อ มุทธสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดุสิตธานี พร็อพเพอร์ตี้ส์ รีท จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทรัสต์ DREIT พร้อมเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนในสัดส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิมต่อ 0.7379 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม ในราคาไม่เกินหน่วยละ 5.90 บาท ในระหว่างวันที่ 13-19 ก.ย.นี้ ขณะที่ผู้ลงทุนทั่วไป สามารถจองซื้อได้ในระหว่างวันที่ 13-23 ก.ย.ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้จากการออกหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,782.39 ล้านบาท จะนำไปลงทุนในโครงการโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะ Mudhdhoo ในหมู่เกาะ Baa Atoll สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศจากองค์กร UNESCO ให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑล (UNESCO World Biosphere Reserve) บนพื้นที่เช่าประมาณ 116 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ระยะเวลาเช่าคงเหลือ 40 ปีเศษ มีมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 2,385.60 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ยืมบางส่วน
“โรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูง เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมไปพัก โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยในปี 2561 สูงถึง 84.43% นอกจากนี้โครงสร้างรายได้ของ DREIT หลังจากลงทุนในดุสิตธานี มัลดีฟส์ แล้ว จะให้ทางกลุ่มดุสิตธานี เช่าไปบริหาร และชำระเป็นค่าเช่าคงที่ให้กับ DREIT ปีละ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากผลการดำเนินงานดี ก็จะมีค่าเช่าแปรผันเพิ่มเติมกลับมาอีกด้วย ดังนั้น การลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้จึงเป็นผลดีต่อผู้ถือหน่วยอย่างแน่นอน” นายสานต่อ กล่าว
ด้านนายนิพัทธ์ วัฒนาธิษฐาน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่ปรึกษาทางการเงินและตลาดทุน สายวาณิชธนกิจ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งที่ 1 กล่าวว่า การลงทุนเพิ่มของ DREIT ในครั้งนี้ จะทำให้รายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์มีความมั่นคงมากขึ้นผ่านการกระจายความเสี่ยงของการจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สิน ซึ่งเดิม DREIT ลงทุนในโครงการโรงแรมในประเทศทั้งหมด 3 แห่ง คือ โรงแรมดุสิตดีทู เชียงใหม่ โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต และ โรงแรมดุสิตธานีหัวหิน การเพิ่มโครงการในต่างประเทศเข้ามาจะช่วยลดการพึ่งพิงแหล่งรายได้ของกองทรัสต์ DREIT กับทรัพย์สินใดทรัพย์สินหนึ่ง (Asset Diversification) และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
“จากราคาเสนอขายที่กำหนดไว้ไม่เกินหน่วยละ 5.90 บาท คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนต่อหน่วย 0.4764 บาท คิดเป็น ไม่ต่ำกว่า 8.07% ถือเป็นอัตราที่จูงใจ” นายนิพัทธ์ กล่าว
นอกจากนี้การลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะทำให้กองทรัสต์มีมูลค่าสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบัน มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์อยู่ที่ระดับประมาณ 4,590.8 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากการเข้าลงทุนในโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ คาดว่ากองทรัสต์จะมีมูลค่าสินทรัพย์รวมไม่เกิน 6,985.6 ล้านบาท จึงคาดว่าจะส่งผลดีต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยทรัสต์จากจำนวนหน่วยที่มากขึ้น เพิ่มความสนใจให้แก่นักลงทุนกลุ่มใหม่ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสามารถในการกู้ยืมเงิน รวมถึงความสามารถในการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทรัสต์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่ออัตราผลตอบแทนของหน่วยทรัสต์ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับราคาหน่วยทรัสต์ DREIT ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 6.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 4.63 ล้านบาท
อ่านประกอบ