HoonSmart.com>> “ริช สปอร์ต” กางแผนครึ่งปีหลังเตรียมปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เร่งออกสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย หลังไตรมาส 2/62 กวาดรายได้ 316 ล้านบาท หนุนครึ่งปีกำไรจ่อทะลุ 100 ล้านบาท
น.ส.พาพิชญ์ วงศ์ไพฑูรย์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริช สปอร์ต (RSP) เปิดเผยว่า บริษัทมองภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เชื่อว่ากำลังซื้อน่าจะมีการฟื้นตัวที่ดีเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศภายในประเทศให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งชื่อมั่นว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนดำเนินกลยุทธ์ทางด้านการตลาดและออกสินค้าคอลเล็กชั่นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี
บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเติบโตจากยอดขายของสาขาเดิมมากกว่าเพิ่มจำนวนสาขาใหม่ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯวางแผนเปิดสาขาของแบรนด์ Converse และแบรนด์ Pony รวม 5-10 สาขา จากปัจจุบันมีสาขาของ Converse จำนวน 156 สาขา และ Pony จำนวน 34 สาขา
ส่วนการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องแต่งกายกีฬา “Barrel” ให้กับบริษัท Barrel Company Limited จากประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดสาขาไปแล้วทั้งสิ้น 6 สาขา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซน ศูนย์การค้าจังซีลอน จ.ภูเก็ต สยามพารากอน เอ็มโพเรียม โรบินสันพระราม 9 และ ไอคอนสยามโดยได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากสินค้าได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค โดยทางบริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มเติมให้ครบ 12 สาขาในปีนี้และเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก 6 สาขาในปีหน้า
ด้านผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 316.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 287.8 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นรวม 175.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 55.5 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 48.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.8 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิคิดเป็นร้อยละ15.2 ของรายได้รวม
สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือน สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทมีรายได้จากการขาย 651.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 623.1 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นรวม 368.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 56.5 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 99.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 88.0 ล้านบาท
