HoonSmart.com>> บล.เอเซีย พลัส คัด 15 หุ้นมีโอกาสดีดกลับแรง หากตลาดฟื้นตัว ชี้หุ้นถูกชอร์ตเซลสูงเดือนส.ค.นี้ KBANK-PTTGC-PTT มีลุ้น ได้แรงซื้อกลับ
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASP) ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนตามสถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน จากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.62 ดัชนีปรับตัวลงหนัก หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ในวันที่ 1 ก.ย.62 แต่ล่าสุดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศว่า เลื่อนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค.62 ทำให้ตลาดหุ้นเล่นยาก ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้นำประเทศมหาอำนาจอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำหรับตลาดหุ้นไทย Valuation มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยพบว่าที่ระดับ SET Index ปัจจุบัน ค่า PER ลงมาอยู่ที่ 15.7 เท่า หนุนให้ Earning
Yield Gap ขยายกว้างขึ้นไปที่บริเวณ 4.6-4.7% (สิ้นปีนี้ 4.93%) ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการซื้อหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว
“ตลาดหุ้นไทยวานนี้ลงแรงถึง 30 จุด หรือ 1.84% ถือว่าเป็นวันที่ปรับลงมากสุดในปี 62 ขณะที่สถิติในอดีต 3 วัน ที่ SET Index ปรับฐานลงแรงสุดในปี 62 นี้ พบว่า วันต่อมา SET Index จะมีการดีดตัวกลับขึ้นมาทุกครั้ง”บล.เอเซีย พลัส ระบุ
พร้อมกับได้คัดกรองหุ้นเก็งกำไร ที่มีโอกาสดีดตัวกลับได้แรง ยามตลาดฟื้นตัว โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 1.ฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อ เป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง 2.Return (ytd) น้อยกว่า 0 โดยราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 62 ปรับฐานลงมาแรงกว่าตลาด 3.Upside มากกว่า 0 โดยราคาหุ้นกลับมามี Upside หรือ Upside เปิดกว้าง และ 4.ค่า Beta มากกว่า 1 กล่าวคือมีโอกาสฟื้นตัวได้แรงกว่าตลาด
ผลจากการคัดกรองด้วยเงื่อนไขดังกล่าว พบว่ามีหุ้นที่เข้าเกณฑ์ 15 บริษัท ได้แก่ IVL, PTTGC, BANPU, ERW, BCP, SEAFCO, KBANK, THANI, ITD, PTT, WORK, SCB, TOP, BJC และ ANAN และหากพิจารณาควบคู่กับการปริมาณการ Short Sales ในเดือนส.ค.2562 พบว่า มีหุ้นที่ถูก Short Sales มากสุดคือ KBANK ราว 2,400 ล้านบาท, PTTGC ราว 2,270 ล้านบาท และ PTT ราว 2,220 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส ยังเชื่อว่า เมื่อปัจจัยภายนอกผ่อนคลาย บวกกับราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวแรง จึงมีโอกาสสูงที่หุ้นถูก Shot Sales จำนวนมาก จะถูก Cover Short หรือปิดทำกำไร ถือเป็นแรงบวก