HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อ แรงขายหุ้นใหญ่ ตัวที่ราคาขึ้นไปมาก บล.เอเซียพลัสคาดเงินต่างประเทศมีโอกาสไหลเข้ามาในครึ่งปีหลัง ตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยง เน้นลงทุนหุ้นปันผลสูง
ตลาดหุ้นวันที่ 9 ส.ค. 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์รูดลงแรง 14.48 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ระดับ 1,650.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายจำนวน 59,240 ล้านบาท
มาร์เก็ตติงกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกตามต่างประเทศ ดัชนีระหว่างวันขึ้นไปสูงกว่า 10 จุด แต่มีแรงขายระหว่างทาง สุดท้ายปิดใกล้จุดต่ำสุด จากการทิ้งหุ้นที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ไม่ดี เช่นปิโตรเคมี รวมถึงหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นไปมาก และบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากกรณีจีนลดค่าเงินหยวน แนวโน้มคาดว่าตลาดยังมีความผันผวนต่อเนื่อง
ทั้งนี้หุ้น BEAUTY ที่มีรายได้จากจีนมากทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งตรงและทางอ้อมจากจีน ราคาปรับตัวลงแรง 3.02 บาท หรือ 0.38 บาทคิดเป็น 11.18%
ด้านนักลงทุนต่างชาติขาย 2,025 ล้านบาท พอร์ตบล. 969 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย 3,024 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ MTC ปิดที่ 53 บาท ติดลบ 5.75 บาทหรือ 9.79% KBANK ปิด 165.50 บาทไม่เปลี่ยนแปลง ADVANC บวก 2 บาทปิดที่ 221 บาท CPALL ติดลบ 0.50 บาทปิดที่ 87 บาท PTT ปิดที่ 44.25 บาทไม่เปลี่ยนแปลง
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวในหัวข้อ “ลงทุนอย่างไรภายใต้สงครามทางการค้าปะทุอีกครั้ง” ว่า คาดว่าดัชนีหุ้นยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในครึ่งปีหลัง โดยมีเป้าหมาย 1,700 จุด บนระดับ P/E ที่ 16.45 เท่า เนื่องจากเงินทุนต่างชาติที่มีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง และจะมีเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวมจะถูกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. นี้ ย้ายเงินลงทุนมายังตลาดทุนทดแทนด้วย
สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำให้สะสมหุ้นที่มีปันผลสูง และได้รับประโยชน์จากสงครามทางการค้าเป็นหลัก รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
