ก.ล.ต.ปรับเกณฑ์ดูแลธุรกิจบล.

เปิดรับความคิดเห็น ปรับหลักเกณฑ์มาตรฐานงาน outsource และการใช้เทคโนโลยีอัลกอริทึม มาช่วยบริการลูกค้า สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์-สัญญาซื้อขายล่วงหน้า

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ดำเนินงานแทน (outsource) ไม่ว่าจะกี่ทอดก็ตาม รวมถึงงานด้านการจัดการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุน เพื่อกำหนดกลไกเพิ่มเติมให้การกำกับดูแลงานที่ outsource มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครองเทียบเท่าระดับสากล อาทิ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของผู้รับดำเนินการที่อาจกระทบต่องาน outsource

ที่ผ่านมา ก.ล.ต. อนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สามารถ outsource ในงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัว โดยยึดหลักต้องรับผิดชอบในงานที่ outsource ทำ เสมือนเป็นผู้ทำเอง ในขณะที่ outsource จะต้องมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและระบบงาน โดยงานที่มอบหมายต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังเปิดรับฟังความเห็นร่างประกาศการนำเทคโนโลยีอัลกอริทึมมาใช้ในการให้บริการลูกค้า สำหรับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า อาทิ การวิเคราะห์ แนะนำ หรือตัดสินใจลงทุนให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดบริการรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนในการเข้าถึงและได้รับบริการที่ได้มาตรฐาน

“ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความเห็นในชั้นหลักการในช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ ก.ล.ต. เสนอ ในครั้งนี้ ก.ล.ต. จึงเสนอร่างประกาศซึ่งกำหนดรายละเอียด สำหรับทั้งผู้ประกอบธุรกิจรายปัจจุบันและรายใหม่ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจากผู้ประกอบธุรกิจ”ก.ล.ต.ระบุ

สำหรับประกาศจะกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีบุคลากร ระบบการติดต่อและให้บริการลูกค้า และระบบตรวจสอบควบคุมภายในที่เหมาะสม รองรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการลูกค้าเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์มาตรฐานในการประกอบธุรกิจ และมีบุคลากรที่เข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานและความเสี่ยงของอัลกอริทึม รับผิดชอบในการนำเทคโนโลยีมาใช้ และบริหารจัดการความเสี่ยง

นอกจากนี้ กำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนรับทราบ อาทิ รูปแบบของการให้บริการ สมมติฐานของอัลกอริทึม และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่อาจต้องหยุดใช้เทคโนโลยีทำงาน เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจใช้บริการ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 5 มิ.ย.2561