โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์ , CFP
วันหนึ่งเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน มีน้องในบริษัทคนหนึ่ง สมมติชื่อ “เอ” มาปรึกษาผม
เอ “พี่ๆ ขอปรึกษาเรื่องการเงินหน่อยสิ พี่ว่า OD capital ดีมั๊ย?”
ผม “ขอรายละเอียดหน่อยนะ เป็นยังไง?”
เอ “เป็นการลงทุน แบบว่าเอาเงินไปซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน การันตีผลตอบแทนที่ได้ 6%/เดือน และยังแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในหุ้นแปลงสภาพที่อีก 2-3 ปีจะแปลงสภาพเป็นหุ้นซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกง ที่จะทำให้เราได้กำไรอีกหลายเท่า”
ฟังแค่นี้ปุ๊บ คติประจำใจผุดขึ้นมาทันที “อะไรก็ตามที่เหลือเชื่อ คือ เหลือเชื่อ”
ผม “เอนะ พี่สงสัยว่าน่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่นะ ห่างๆไว้ดีกว่า เอาง่ายๆ การซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน มีความเสี่ยงสูงมากไม่มีใครการันตีได้หรอกว่าได้กำไรแน่ๆ และได้ทุกเดือนๆละ 6% จำไว้นะ เอ อะไรก็ตามที่เหลือเชื่อ คือ เหลือเชื่อ เอาง่ายๆ ถ้า OD capital ดีขนาดนี้ ทำไมคนรวยๆถึงไม่รู้เรื่องนี้ ทำไมคนจะมาเสี่ยงเล่นหุ้นให้ขาดทุน”
เอ “แต่พี่นะ หนูลงทุนไปแล้ว ได้เงินเดือนละ 6% จริงๆ และไม่เสี่ยงอย่างที่พี่บอกด้วย เพราะทุกเดือน คุณสมาร์ทที่เป็นแม่ทีมจะโอนเงินเข้าบัญชีเรา นี่หนูเห็นว่ามันดีเลยกะชวนพี่มาลงทุนด้วยไง”
อ้าว สรุปคือ ต้องการชวนให้เราลงทุนนั่นเอง ไม่ได้มาปรึกษาหรอก เทคนิคการขายขั้นพื้นฐานเลยนะเนี่ย
ผม “เอ อย่างนี้นะ การที่มีคนๆหนึ่งโอนเงินให้เราทุกเดือน โดยที่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน คือ ความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวง ถ้าเขาเกิดวันดี คืนดีหายไปพร้อมเงินของเรา จะตามได้ที่ไหน และขอบคุณนะที่หวังดีชวนพี่ลงทุนด้วย แต่พี่ไม่ชอบลงทุนในอะไรที่พี่ไม่รู้ และไม่เชื่อนะ เอาอย่างนี้มั๊ย มีไลน์กรุ๊ปของ OD capital ป่าว เชิญพี่เข้ากลุ่มเพื่อศึกษาข้อมูลหน่อยสิ ถ้าดีจริง พี่ก็จะลงทุนด้วย”
เอ “ได้เลยพี่ แต่ถ้าพี่จะลงทุน พี่ต้องลงทุนผ่านหนูนะ”
ผม “แน่นอน ไม่ต้องห่วง ดีจริง พี่ลงทุนผ่านเอแน่นอน”
หลังจากนั้น เอก็ดึงผมเข้ากลุ่ม ในไลน์กลุ่มก็ไม่มีข้อมูลอะไรที่แชร์มาก นอกจากขายความเชื่อ OD capital ว่าดียังไง ส่วนผมก็แชร์ข้อมูลความรู้ด้านการเงินไปด้วย เผื่อเป็นข้อคิดบางอย่าง ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว เอก็มาหาผมบอกว่า ขอดีดผมออกจากกลุ่มนะ เนื่องจากไปแชร์ข้อมูลการเงิน
ผมจึงเตือนเอด้วยความหวังดีให้ออกห่างจาก OD Capital เหอะ เพราะถ้าดีจริง ก็ไม่น่าจะกังวลใจที่ผมแชร์ข้อมูลอีกด้าน แต่ดูเหมือนเอจะไม่เชื่อ จริงๆแล้ว ถ้าเป็นคนอื่น ผมจะปล่อยตามบุญตามกรรมไปเลย แต่นี่เป็นน้องในบริษัท ก็สงสาร กลัวจะถูกหลอก ผมจึงขอให้เพื่อนที่อยู่สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งดูแลเรื่องนี้มาเตือนน้องอีกทีหนึ่ง
เพื่อนก็ใจดีมากครับ โทรคุยกับน้อง เล่าถืงพฤติกรรมของแชร์ลูกโซ่ที่หลอกเงินชาวบ้านว่าทำอย่างไรบ้าง ปรากฏว่าเหมือนที่ OD Capital ทำทุกอย่าง เพื่อนผมจึงเตือนเอเหมือนที่ผมเตือน คือ ออกห่างจะปลอดภัยกว่า เอก็รับปากเพื่อนผมว่าจะระวัง และออกห่าง ขอบคุณเพื่อนผมที่แนะนำ
เมื่อวางสายกับเพื่อนผมเสร็จ ผมก็ถามเอ “เป็นไง เชื่อพี่ยัง มันหลอกนะ” แต่สุดท้าย ความอดทน ความหวังดีของผมก็จบลง เมื่อเอตอบกลับว่า “เพื่อนพี่ไม่รู้อะไร ของเขาดี ไปมั่วว่าไม่ดี ไม่รู้จริง อย่าพูดดีกว่า” ผมคิดในใจ ถ้าคนมีความรู้อยู่ในหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรงไม่รู้ แล้วใครจะรู้ ก็ขอให้เอโชคดีแล้วกันนะ
สุดท้าย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 OD Capital ก็ถึงจุดจบ เมื่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้มีการจับกุมผู้ต้องหา 22 คนที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยผู้ต้องหามีทั้งสิ้น 32 ราย ถูกจับไปแล้ว 22 ราย อยู่ต่างประเทศ 8 ราย และกำลังตามจับอีก 2 ราย
การระดมทุนดังกล่าวผิดกฎหมายด้านการระดมทุนและไม่มีการประกอบธุรกิจอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยการจะระดมทุนจากประชาชนทั่วไป บริษัทหรือบุคคลต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อน OD capital จึงผิดพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ไม่รู้ตอนนี้ น้องเอจะเป็นยังไงบ้าง ได้เงินคืนมาบ้างป่าว และผมก็มารู้ทีหลังว่า OD Capital ต้องลงทุนขั้นต่ำ 30,000 บาท คนแนะนำได้ 10% ของเงินลงทุน เข้าใจแล้ว ทำไมเอถึงขยันชวนผมลงทุนด้วยจัง