HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น S&P500 ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,000 จุดเป็นครั้งแรกระหว่างชั่วโมงซื้อขาย รับสัญญาณการลดดอกเบี้ยของเฟด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบจากความกังวลต่อความตึงเครียดทางการค้าโลกและเศรษฐกิจโลก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ 26,860.20 จุด เพิ่มขึ้น 76.71 จุด หรือ 0.29% หลังจากในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาคองเกรสวันแรก นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง (Federal Reserve) ส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างเต็มที่
ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,000 จุดเป็นครั้งแรกระหว่างชั่วโมงซื้อขายก่อนที่กลับมาปิดที่ 2,993.07 จุด เพิ่มขึ้น 13.44 จุด,+0.45%
ขณะเดียวกันดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ มาปิดที่ 8,202.53 จุด เพิ่มขึ้น 60.80 จุด,+0.75%
ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินสภาคองเกรส นายพาวเวลล์กล่าวว่า การจ้างงานยังคงแข็งแกร่งและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มที่จะฟื้นตัว ส่วนการลงทุนชะลอตัวเช่นเดียวกับการลงทุนในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจทั่วสหรัฐฯได้ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด จากความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปัจจัยลบหลายอย่างได้กลับเข้ามาอีกครั้ง กรรมการของคณะกรรมการนโยบายการเงินเองส่วนใหญ่ได้สนับสนุนให้ผ่อนคลายนโยบายการเงิน และหลังการประชุมครั้งล่าสุด ข้อมูลที่มีและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าความไม่แน่นอนจากความตึงเครียดทางการค้าและความกังวลต่อความแข็งแกร่งต่อเศรษฐกิจโลกยังคงถ่วงเศรษฐกิจสหรัฐต่อเนื่อง
นอกจากนี้รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเดือนมิถุนายนที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย
“ในกรณีฐานแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานแข็งแกร่งและเงินเฟ้อก็จะเพิ่มขึ้นมาที่ 2% ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มมีมากขึ้นใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะแรงส่งทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของบางประเทศใหญ่และความอ่อนแอนนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ” นายพาวเวลล์กล่าว
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์เป็นการส่งสัญญาณการลดอกเบี้ยเต็มที่ ขณะที่ เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวการณ์ซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้
หุ้นเทสลาเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% จากรายงานข่าวว่าบริษัทแจ้งให้พนักงานเตรียมพร้อมรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น
หุ้นลีวายสเตราส์สลดลง 12% จากกำไรไตรมาสสองที่ลดต่ำกว่าคาด
หุ้นพลังงานเพิ่มขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้น โดยหุ้นเอ็กซฺนโมบิลเพิ่มขึ้น 1.4% หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 1.7%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบจากความกังวลต่อความตึงเครียดทางการค้าโลกและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของสภาคองเกรส ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ชี้ชัด แม้ในช่วงแรกของการซื้อขายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย
ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้เผยแพร่การคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2019 ว่า แม้เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 7 และบางประเทศขยายตัวดีกว่าคาดในไตรมาสแรก แต่ โดยรวมในระยะสั้นยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ซึ่งรวมทั้งความตึงเครียดทางการค้าโลกและความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย
คณะกรรมาธิการคงประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจยูโรโซน ปี 2019 ไว้ที่ 1.2% แต่ลดคาดการณ์ปี 2020 ลงมาที่ 1.4% ส่วนคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปปี 2019 และ 2020 ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.4% และ 1.6%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,530.69 จุด ลดลง 5.78 จุด,-008%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 387.15 จุด ลดลง 0.77 จุด,-0.20%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,567.59 จุด ลดลง 4.51 จุด,-0.08%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,373.41 จุด ลดลง 63.14 จุด,-0.51%
หุ้นแอร์บัสเพิ่มขึ้น 1.5% หลังยืนยันว่าการส่งมอบเครื่องบินครึ่งแรกของปีเพิ่มขึ้น 28% แซงหน้าโบอิ้งเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 2.60 ดอลลาร์หรือ 4.5% ปิดที่ 60.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 2.85 ดอลลาร์ หรือ 4.4%ปิดที่ 67.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล