ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ที่ 26,089.61 จุด ลดลง 17.16 จุด หรือ 0.07% จากการปรับตัวลดลงของหุ้นบรอดคอมผู้ผลิตชิปที่กดดันหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,886.98 จุด ลดลง 4.66 จุด, -0.16%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,796.66 จุด ลดลง 40.47 จุด, -0.52%
หุ้นบรอดคอมลดลงมากกว่า 5% หลังจากรายงานรายได้ไตรมาสที่ผ่านมาต่ำกว่าคาดและได้ปรับลดประมาณการณ์รายได้ทั้งปีลง เป็นผลจากความต้องการที่อ่อนตัวลงในหลายภูมิภาคและจากมาตรการคว่ำบาตรหัวเว่ยของสหรัฐฯ
หุ้น VanEck Vectors ลดลง 2.7% หุ้นไมครอนเทคโนโลยี หุ้น เอเอ็มดีต่างลดลง 1% หุ้นอินเทลดลง 1.1%
นักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังที่ชะลอตัวของบรอดคอมจะกดดันหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง จนกว่าสหรัฐฯ กับจีนจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนเดือนพฤษภาคมที่เพิ่มขึ้น 5% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ต่ำสุดในรอบ 17 ปี รวมไปถึงตัวเลขค้าปลีกเดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น 0.5% ต่ำกว่า 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ก็คาดว่าธนาคารกลาง (เฟด) จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่จะติดตามภาวะเศรษฐกิจต่อเนื่องและจะพิจารณาอีกครั้งในการประชุมเดือนกันยายน
ขณะที่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม โดย CME Group’s FedWatch เครื่องมือวัดความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ระดับ 86.3% และอยู่ที่ระดับ 70.1% สำหรับการลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านหลังสหรัฐฯ ระบุว่ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเรือบรรทุก น้ำมัน 2 ลำในอ่าวโอมาน ใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล ปรับลดความต้องการน้ำมันลงเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ลดลงตามบรอดคอมในสหรัฐฯ ที่ได้ปรับลดแนวโน้มรายได้ทั้งปีลง โดยระบุว่าเป็นผลจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน โดยหุ้น AMS ลง 7.5% หุ้น Infineon ลดลง 5.5%
ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซนเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.9% จากระยะเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด