ดาวโจนส์ปิดบวก 100 จุด ราคาน้ำมันดิบพุ่ง

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 2.2%  เหนือ 50 ดอลลาร์  นักลงทุนระมัดระวัง รอผลประชุม เฟด และ G-20

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 13 มิถุนายน 2562 ที่ 26,106.77 จุด เพิ่มขึ้น 101.94 จุด หรือ 0.39% ด้วยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 2% หลังเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน ลำในอ่าวโอมานใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งการขนส่งน้ำมัน ใน 5 ผ่านช่องแคบนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลต่อโอกาสการลดลงของปริมาณน้ำมันในตลาด  

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์หรือ 2.2% ปิดที่ 52.28  ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์หรือ 2.2%ที่ 61.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์ระบุว่า การปรับขึ้นของราคาน้ำมันนับเป็นครั้งที่ ที่ยืนเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่าจะไม่กลับไปแตะที่ระดั65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ก็จะไม่กลับไม่ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

นักลงทุนยังซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการประชุมธนาคารกลาง (เฟด)ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ และจับตาการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G-20 ในปลายเดือนนี้ ขณะที่ความหวังว่าสหรัฐฯ กับจีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าลดน้อยลง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,891.64 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด,+0.41%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,837.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.41 จุด,+0.57%

กระทรวงแรงงานเผยตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 222,000 ราย จาก 219,000 ราย ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งสูงกว่าคาด ขณะที่ดัชนีราคาสินค้านำเข้าเดือนพฤษภาคมลดลง 0.3% จากเดือนก่อนหน้า

หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิลเพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นฮัลลลิเบอร์ตันเพิ่มขึ้น 2.8% หุ้นเดวอนเอ็นเนอร์จีเพิ่มขึ้น 2.9%

หุ้นดิสนีย์เพิ่มขึ้น 4.4% หลังมอร์แกนสแตนเล่ย์ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 160 ดอลลาร์จาก 135 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากการคาดการณ์ว่าจำนวนสมาชิกบริการสตรีมมิ่งทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้น  รวมทั้งจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทเลคอมหลังเยอรมนีเปิดประมูลเครือข่าย 5G  ซึ่งได้เงินราว 6.55 พันล้านยูโรและการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน

นายซาเวียร์ เบทเท็ล นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า สหภาพยุโรปจะไม่มีการเจรจาใหม่กับอังกฤษในข้อตกลงการถอนตัวหรือ  Brexit แม้อังกฤษจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังจากที่การลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมรอบแรกนายบอริส จอห์นสันมีคะแนนนำ จากการรณรงค์ว่าอังกฤษจะถอนตัวจากอียูในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 นี้ ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่มีข้อตกลง

ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินหรือ Swiss Average Rate Overnight (SARON) แทนอัตราดอกเบี้ย LIBOR (London InterBank Offer Rate) โดยจะยกเลิกการใช้ LIBOR ภายในปี 2021 เนื่องจากปัจจุบันตลาดเงินได้หันไปใช้อัตราดอกเบี้ยอื่นกันมากขึ้นจากเดิมที่มักใช้ LIBOR อ้างอิง อย่างไรก็ตามยังยืนยันว่าการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนหรือผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,368.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.95 จุด, +0.01 %

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 380.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.59 จุด, +0.16 %

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,375.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด, +0.01%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,169.05 จุด เพิ่มขึ้น 53.37 จุด, +0.44 %