TOP-PTTGC-IRPC ร่วง เครดิตสวิสหั่นราคา-ลดเป้ากำไร

HoonSmart.com>> เครดิตสวิสปรับลดราคาเป้าหมาย TOP จากเดิมให้มูลค่า 73 บาท เหลือ 55 บาท PTTGC จากราคา  73 บาท เหลือ 65 บาท IRPC จาก 6.50 บาท เหลือ 5 บาท และให้ราคา PTT เท่าเดิม 45 บาท หลังปรับลดน้ำหนักการลงทุน ประมาณการกำไรปีนี้ลงมาก กดดันราคาหุ้นทันที

บริษัทเครดิตสวิส ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มพลังงานของไทย วันที่ 22 พ.ค. 2562 ว่า กำไรที่น้อยอยู่แล้วของธุรกิจปลายน้ำจะยังต่อเนื่องอีกนาน จึงยังคงคำแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้  พร้อมปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2562 ลง 21-34% จากราคาน้ำมันดิบกับส่วนต่างของดีเซลและแก๊สโซลีนที่ลดลงรวมทั้งส่วนต่างของพาราไซลีนที่ลดลงอย่างมาก  จึงปรับลดประมาณการกำไรบริษัทไทยออยล์( TOP) ลง 29% ส่งผลให้ประมาณการของเราต่ำกว่าตลาดโดยรวม 27% ทั้งนี้คาดว่ากำไรหลักของกิจการ มีจำนวน 7.2 พันล้านบาท ลดลง 38% จากปีก่อน และลดราคาเป้าหมายจาก 73 บาทเป็น 55 บาท

สำหรับบริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เครดิตสวิสปรับลดราคาเป้ามายลงมาที่ 5 บาทจาก 6.5 บาท แม้เป็นหุ้นที่รับผลดีจาก IMO 2020 (มาตรฐาน IMO 2020 ข้อกำหนดขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ที่ประกาศห้ามใช้น้ำมันเตากำมะถันสูงในเรือเดินสมุทร) มากที่สุดในกลุ่ม และแม้ว่าผลกำไรจะค่อยฟื้นตัว ราคาหุ้นจะปรับขึ้นมากกว่าหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม แต่ยังคงปรับลดประมาณการกำไรลง 34% ทำให้กำไรหลักอยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท และประมาณการของเราต่ำกว่าตลาด 30% และหากว่าผลของ IMO 2020 ยังไม่เกิดขึ้นก็มีโอกาสที่จะปรับลดประมาณการกำไรลงอีก 22%

บริษัทเครดิตสวิสได้ปรับลดประมาณการกำไรบริษัทปตท.(PTT) ลง 2% ส่วน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC) ประมาณการของเรายังต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์โดยรวมถึง 30%

“เราได้ปรับลดคำแนะนำ TOP เป็นต่ำกว่าตลาด จากเท่ากับตลาด ส่วน IRPC ปรับคำแนะนำเป็นเท่ากับตลาดจากเดิมให้น้ำหนักมากกว่าตลาด”เครดิตสวิสระบุ

รายงานคาดว่าค่าการกลั่นจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในไตรมาส 1/ 2562 แม้การฟื้นตัวจะน้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลจากแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศและการแข่งขันด้านปริมาณ เนื่องจากจีนส่งออกสูงขึ้น

สำหรับธุรกิจปิโตรเคมี สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลให้การฟื้นตัวของความต้องการชะลอออกไป

บริษัทเครดิตสวิสยังคงมุมมองว่า IMO 2020 เป็นปัจจัยบวกเพียงปัจจัยเดียวสำหรับการลงทุนในกลุ่มนี้ เพราะจะมีผลดีต่อโรงกลั่น โดยจะเห็นผลชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 และในระหว่างนี้ความเสี่ยงในกลุ่มนี้ยังมีสูง เพราะมีปริมาณเข้าสู่ตลาดจากกำลังการผลิตใหม่และการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่า ROEs จะตกลงสู่ระดับต่ำสุดซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 2552 ที่โลกประสบกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน แม้มูลค่าสูงจะขึ้นในขณะนี้

บทวิเคราะห์ของเครดิตสวิสที่ออกมาในวันที่ 22 พ.ค. ส่งผลกระทบต่อหุ้นเหล่านี้ทันที โดย TOP รูดลงแรงถึง 2 บาทหรือ 3.20% ปิดที่ 60.50 บาท มูลค่าการซื้อขายมากกว่า 2,811 ล้านบาท IRPC ติดลบ 0.04 บาทหรือ 0.84% ปิดที่ 4.74 บาท และ PTTGC ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 0.25 บาท