CPF กำไรโตแรง 40 % อานิสงส์ราคาหมูดีขึ้น

HoonSmart.com>>CPF ไตรมาสแรก กำไรโต 40 % อานิสงส์ หมูล้นตลาดในเวียดนาม เข้าสู่ภาวะปกติ ดันกำไรขั้นต้นพุ่งเป็น 14 % ปักธง 5 ปีข้างหน้า ยอดขายต่างประเทศแตะ 8 แสนล้านบาท ต่อปี เฉลี่ยโตปีละ 6-7 %  ตั้ง “สุภกิต เจียรวนนท์” ขึ้นประธานบอร์ดแทน ” ธนินทร์ เจียรวนนท์” 

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท  เจริญโภคภัณฑ์อาหาร  (CPF )  เปิดเผยว่า ไตรมาสแรก มีรายได้การขาย 1.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 % จากงวดเดียวกันปีก่อน  ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของกิจการต่างประเทศ ที่มีสัดส่วน 67% ของรายได้จากการขายรวม โดยอีก 33% มาจากกิจการในประเทศไทย

กำไรสุทธิไตรมาสแรก  4,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230.78 ล้านบาท หรือ  40% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไร 3,048.62 ล้านบาท

กำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจสุกรของกิจการในประเทศเวียดนาม ประเทศไทย และประเทศกัมพูชา ที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาสุกร ซึ่งลดต่ำลงอย่างมากจากภาวะล้นตลาดในงวดเดียวกันของปีก่อนได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ รวมทั้งการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 9% ของงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 14% ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้

ประธานคณะผู้บริหาร ฯ  กล่าวถึงสถานการณ์โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือ ASF (African Swine Fever) ที่เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม ว่า อาจมีผลกระทบต่อราคาสุกรในพื้นที่ที่เกิดโรคเป็นปัจจัย ที่อาจทำให้เกษตรกรมีความกังวลและรีบขายสุกรที่ยังไม่เป็นโรคเข้าสู่ตลาดก่อนเวลาอันควร ทำให้เกิดภาวะล้นตลาดในระยะสั้น ขณะเดียวกัน ผลจากการเกิดโรค ASF จะทำให้สุกรในพื้นที่เกิดโรคมีจำนวนน้อยลง อาจส่งผลให้ระดับราคาสุกรสูงขึ้นจากภาวะเนื้อสุกรขาดตลาด

” ผลการดำเนินงานปีนี้ น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่อาจมีความผันผวนบ้างจากผลกระทบราคาหมูในเวียดนาม ที่ยังไม่นิ่ง จากโรค ASF ส่วนกิจการอื่น ๆ ผลดำเนินงานดีขึ้นต่อเนื่อง  โดยบริษัทยังให้ความสำคัญในการต่อยอดธุรกิจ หรือเพิ่มมูลค่าให้กับกิจการ เช่น การซื้อบริษัท Hylife  ทำธุรกิจหมูเกรดพรีเมี่ยม ในแคนาดา ส่งออกไปญี่ปุ่นและประเทศจีน มีอัตราการทำกำไรที่ดี ซึ่งผลการเข้าซื้อ น่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ” ผู้บริหารกล่าว

ทั้งนี้ มื่อรวมการลงทุนในแคนาดา แล้ว  CPF จะมีฐานธุรกิจรวม 18 ประเทศ ซึ่งหลายประเทศมีโอกาสขยายธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เช่น ในประเทศจีน เวียดนาม รัสเซีย สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ดังนั้น การเติบโตส่วนใหญ่ จะมาจากกิจการในต่างประเทศ  มีเป้าหมายยอดขาย 5 ปีข้างหน้าที่ 800,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 6-7 % โดยมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศประมาณ 75% ของยอดขายรวม และล่าสุดได้แต่งตั้งนายสุภกิต เจียรวนนท์ เป็นประธานกรรมการ CPF มีผลตั้งแต่ 10 พ.ค.2562 เป็นต้นไป