HoonSmart.com>>”อิทธิพัทธ์” ลั่นรู้ปัญหาเถ้าแก่น้อย กำลังแก้ไข ปีนี้ปรับลดเป้ายอดขายเหลือ 5-7% กำไรโตไม่น้อยกว่า 7% ตลาดสหรัฐเป็นอนาคต ถึงจุดคุมทุน อินโดนีเซีย-มาเลเซียรุ่ง สร้างสมดุลตลาดต่างประเทศ แทนพึ่งพาจีน ราคาสาหร่ายลดลง 10-15% หนุนอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไร
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า ยังคงเชื่อมั่นเถ้าแก่น้อยเติบโต มองว่าตลาดสหรัฐยังขยายตัวได้มาก ปีนี้มีสิ่งทื่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ตัวแทนจำหน่ายใหม่ในจีน ยังต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ตลาดจีนจะปรับลงมาให้เหมาะสมกับความเป็นจริง ปีนี้ยังคงมั่นใจยอดขายเติบโต 5-7% แต่กำไรจะโตมากกว่า 7% ไตรมาส 1/2562 งบเดี่ยว กำไรเหลือ 80 ล้านบาท เพราะลงทุนไปเกือบ 20 ล้านบาท ส่วนตลาดสหรัฐ ได้พื้นที่ในการวางสินค้าเพิ่มขึ้น จะต้องลุยต่อ
“สหรัฐเป็นคลื่นลูกใหม่ บาลานซ์พอร์ต แทนจีนที่เราพึ่งพามาก เมื่อมีปัญหา กระทบมาก ตลาดสหรัฐเป็นอนาคต ตลาดอินโดนีเซียโตมาก มาเลเซียขยายตัวสองหลัก มองเอเชีย เราเรียนรู้ปัญหา และหาตลาดที่โต แต่เราควบคุมได้ ที่จีนมีตัวแทนหลายคน ทำให้ดูแลยาก ตอนนี้รู้ปัญหา และกำลังดูแล คิดว่า 5-7% ทำได้ ส่วนกำไรจะต้องทำให้ดีกว่าปีก่อนเยอะๆ ไตรมาสหน้าไม่มีการตั้งสำรองหนี้สูญ “นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
สำหรับตลาดสหรัฐ ตั้งเป้า 5 ปี ยอดขาย 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในประเทศ มีการปรับลดต้นทุน และตั้งทีมไปดูงานใช้หุ่นยนต์มาช่วยในการผลิต เรื่องดีมานต์ และซัพพลาย เครื่องจักรที่เข้ามาจะช่วยลดต้นทุนคงที่ จากการใช้แรงงาน
นายจิระพงษ์ สินติภิรมย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการเงิน TKN คาดว่า ต้นทุนและค่าใช้จ่ายจะดีขึ้น ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ลดลง ได้ตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามา จะดีขึ้นในไตรมาส 2 เป็นต้นไป ไตรมาส 1 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของบริษัท ส่วนค่าใช้จ่ายนักวิเคราะห์บางคนอาจจะเข้าใจผิด ยืนยันเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว จบไปแล้ว
บริษัทมองสหรัฐเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีโอกาสเติบโตที่ดีขึ้น เพิ่งได้ออเดอร์ใหม่ นอกจากนี้ตลาดอินโดนีเซีย โตกว่า 70% ผู้บริหารจะต้องทบทวนกลยุทธ์และทบทวนเป้าหมายยอดขายที่คาดไว้โต 22-25% เน้นความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น ในเรื่องต้นทุนสาหร่าย คิดเป็น 40% ของยอดขาย ราคาลดลง 10-15% ทำให้สต็อคสินค้ามากขึ้น จะส่งผลให้ต้นทุนลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
นายคู่สูรย์ รัตนพร ผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน TKN กล่าวว่า ไตรมาส 1 มีกำไร 81 ล้านบาท ลดลง 46% จากปีก่อน สัดส่วน 6.2% ของยอดขาย ได้รับผลกระทบจากจีน มียอดขาย 1,322 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ปรับค่าใช้จ่ายในการขาย เนื่องจากมาตรฐานการบัญชี มีการปรับค่าส่งเสริมารขาย หักลบกับรายได้จากการขาย เพื่อให้เป็นรายได้สุทธิ กำไรสุทธิไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะมีผลต่อยอดขายปรับลดลงบางส่วน และค่าใช้จ่ายในการลดลงจำนวนเท่ากัน
ตลาดในประเทศ เติบโต 12% ต่างประเทศลดลง 8% จากจีนมีผลกระทบต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สัดส่วนการขายในประเทศ 38% และต่างประเทศ 62% ใกล้เคียงกับปีก่อน 40% และ 60% รักษาส่วนแบ่งตลาด ขนมขบเคี้ยว 69%
บริษัทมีการออกสินค้าสาหร่ายรสชาดใหม่ ขณะที่ไตรมาส 1 ปีก่อน ไม่มีสินค้าใหม่ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายครั้งแรกตอนออกสินค้าใหม่ เช่น ค่าส่งเสริมการค้า ขยายตลาดเถ้าแก่น้อยแลนด์ เปิดใหม่ที่ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์ รองรับนักท่องเที่ยว และเปิดร้านข้าวแกงกระหรี่ ทำให้ยอดขายในประเทศเติบโต
“ยอดขายนักท่องเที่ยวในเดือน มกราคม ดีขึ้น แต่เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม กลับมาลดลง ทำให้ไตรมาสแรกยอดขายนักท่องเที่ยวลดลง 2% คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น จากการกระตุ้นตลาด และการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล แนวโน้มจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง “นายคู่สูรย์ กล่าว
ส่วนการขายในต่างประเทศ สัดส่วนจีน 35% ส่วนที่เหลืออีก 30 ประเทศ มียอดขายประมาณ 20% ตลาดสหรัฐโตถึง 100% เพราะในปีก่อนยังไม่ได้เปิดแบรนด์ทั้งหมด เริ่มรุกในครึ่งปีหลัง ส่วนตลาดอินโดนีเซีย และมาเลเซียโตดี และเน้นตลาด CLMV สอดคล้องกับการเติบโตเศรษฐกิจ ส่วนจีน ได้ผู้แทนจำหน่ายใหม่มาแทนเจ้าเดิมที่เซียงไฮ้ มีการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ มีการเปิดตัวในเว็บไซต์หลักของจีน เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมการขาย และเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ เถ้าแก่น้อย
“สินค้าสาหร่ายย่าง สัดส่วน 45% แซงสาหร่าย ทอด 42% อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 65% แนวโน้มต้นทุนลดลง สาหร่ายจะใช้ราคาใหม่ ในปลายพ.ค.ถึงต้นพ.ค. ไตรมาส 2 ยังไม่เห็นผล ครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นเรื่องอัตรากำไร และอัตรากำไรสุทธิดีขึ้น จากไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 383.1 ล้านบาท สัดส่วน 29% และ จำนวน 813 ล้านบาท สัดส่วน 6.2% เทียบกับไตรมาส 4 อัตรากำไรสุทธิ ลงไปอยู่ที่ 1.70% เทียบกับสูงมากกว่า 11% “นายคู่สูรย์ กล่าว
ด้านราคาหุ้น TKN ยังคงลดลง 0.20 บาท ซื้อขายที่ 10.00 บาท ณ เวลา 12.28 น. จากวันก่อนปรับตัวลงมาก 6.42% ปิดที่ 10.20 บาท ลดลง 0.70 บาท หลังจากนักลงทุนผิดหวังกำไรไตรมาส 1
นักวิเคราะห์ ยังคงแนะนำ”ขาย” หุ้น TKN บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กำลังทบทวนประมาณการและราคาพื้นฐาน จากเดิมแนะนำซื้อ กำไรไตรมาส 1/2562 ต่ำกว่าคาด และน่าผิดหวัง รายได้ลดลง 1% ส่งออกต่ำลง 7.5% แต่ชดเชยด้วยยอดขายในประเทศเพิ่ม 12%
ด้านอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเล็กน้อย เพราะควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ส่วนผลดีของต้นทุนสาหร่ายที่ต่ำลง จะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 8 บาทเหลือ 7.50 บาท เพราะกำไรไตรมาส 1 คิดเป็นเพียง 15% ของประมาณการทั้งปี จึงถูกปรับลดประมาณการปี 2562-2563 ลง 24% และ 28% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐาน SG&A ขึ้น