HoonSmart.com>>อานิสงส์สงครามการค้า ดับบลิวเอชเอฯ เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินกับกลุ่มเฉิงชาน กรุ๊ป ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่จากจีน จำนวน 280 ไร่ ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุ่มงบลงทุนเฟสแรก 10,100 ล้านบาท WHA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 1,600 ไร่ งบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท
บริษัทดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์(WHA) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 280 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 กับบริษัท พรินซ์ เฉิงชาน ไทร์(ประเทศไทย) ในเครือเฉิงชาน กรุ๊ป จากจีน เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตได้ประมาณกลางปี 2563
น.ส. จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บริษัทดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHA) เปิดเผยว่า บริษัท พรินซ์ เฉิงชาน ไทร์ฯในเครือเฉิงชาน กรุ๊ป ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำของประเทศจีน และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เป็นลูกค้ารายแรกของ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) มีพื้นที่รวม 2,198 ไร่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในนิคมฯได้ราว 1.4 แสนล้านบาท ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ปัจจุบันนักลงทุนจีนและไต้หวันเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงญี่ปุ่นด้วย โครงสร้างทั้งกลุ่มมีลูกค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็น 7% จากที่ผ่านมามีสัดส่วน 3-4% เท่านั้น ส่วนญี่ปุ่นมีสัดส่วน 38%
“การซื้อที่ดินของเฉิงชาน กรุ๊ปครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน จะชักชวนซัพพลายเออร์มาลงทุนที่นี่ด้วย ฝ่ายวิศวกรรมทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการก่อสร้างโรงงานให้สำเร็จ “นางสาวจรีพรกล่าว
ประธานคณะกรรมการ WHA กล่าวว่า นักลงทุนต่างประเทศสนใจลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น มีผู้สนใจขอเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทในการดำเนินธุรกิจนิคมฯ เช่นในส่วนบริษัทของคนไทย มีที่ดินมาเสนอให้บริษัทพัฒนา หรือนักลงทุนต่างประเทศที่ต้องการเป็นเจ้าของพื้นที่ในนิคมฯเอง
ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัท WHA คาดว่าจะขายที่ดินจำนวน 1,600 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินในไทย 1,400 ไร่ และนิคมฯในเวียดนาม 200 ไร่ เติบโตมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการขายที่ดินทั้งหมด 1,000 ในปีที่ผ่านมา ส่วนงบลงทุนคาดว่าจะใช้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท สำหรับธุรกิจนิคมฯจำนวน 2,000 ล้านบาท เป็นของนิคมฯเวียดนาม 800 ล้านบาท ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เป็นนิคมฯใหม่ล่าสุดลำดับที่ 10 ในประเทศไทย และเป็นรายที่ 11 เมื่อรวมนิคมฯในเวียดนาม ได้รับการส่งเสริมจากEEC เป้าหมายที่จะรองรับนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์
นายเชอ หงจื้อ ประธานบริษัท เฉิงชาน กรุ๊ป กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯมีอายุมากกว่า 40 ปี มีแผนที่จะออกลงทุนในต่างประเทศมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีสงครามการค้า เป็นแรงกระตุ้นให้ออกมาเร็วขึ้น และเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิต เพราะเป็นศูนย์กลางอาเซียน มีทรัพยากรมาก และรัฐบาลที่มีนโยบายที่สนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ ความร่วมมือกับประเทศไทยจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต
สำหรับการลงทุนครั้งนี้ บริษัทวางแผนในการผลิตยางรถยนต์และรถบรรทุก จำนวน 12 ล้านเส้น ใช้ยางพาราในการผลิตประมาณ 1.8 แสนตัน จากการยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ การผลิตจะเป็นการส่งออก 90% ส่วนใหญ่ในสหรัฐและยุโรป ขายในประเทศไทย 10% แบ่งการลงทุนเป็น 3 เฟส เฟสแรกจะทุ่มงบลงทุนประมาณ 10,100 ล้านบาท คาดจะเริ่มผลิตกลางปีหน้า ตั้งเป้าผลิตยางสำหรับรถยนต์ 4 ล้านเส้นและรถบรรทุก 8 แสนเส้น ใช้พนักงาน 1,200 อัตรา คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000 อัตรา หลังจากผลิตยางรถยนต์ทั้งหมด 10 ล้านเส้น และยางรถขนาดใหญ่ 2 ล้านเส้นในอนาคต ตามการผลิต เฟส 2 จะเริ่มในอีก 3 ปี และเฟส 3 ในอีก 5 ปี ทั้งนี้จะมีการพิจารณาความต้องการของตลาดก่อน
“รู้จักประเทศไทยมานาน 10 ปีเพราะมีลูกค้าเมืองไทย รู้จักรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด แม้มีปัญหา ก็ยังค้าขายได้หมด รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนจากต่างประเทศ เป้นจุดดึงดูดและกระตุ้นให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย จีนซื้อยางจากไทย เพราะเป็นผู้ผลิตยางที่มีคุณภาพ”
นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนต่างประเทศ WHA กล่าวว่า เฉิงชาน กรุ๊ป ผู้ผลิตยาง รถยนต์ รถบรรทุก และรถโดยสารระดับโลก เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสุง จากสาธารณูปโภคของนิคมฯ เอื้อให้ธุรกิจดำเนินกิจการได้ราบรื่น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก