บลจ.ทาลิส เปิดผลงาน 2 ปีบริหารผลตอบแทนให้ลูกค้าได้ดีเกินเป้าหมาย หนุนเงินไหลเข้ากองทุน ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ วางเป้า AUM สิ้นปีทะลุหมื่นล้าน
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) สิ้นปี 2561 ไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 6.88 พันล้านบาท โดยตั้งเป้ารักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มขยายฐานลูกค้าใหม่
ในส่วนของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล จะเน้นที่กลุ่มลูกค้า High Net Worth ที่เคยลงทุนในกองทุนหรือหุ้นอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นทั้งลูกค้าเดิมที่รู้จักและจากการแนะนำต่อของลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มกองทุนส่วนบุคคลที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นอีกประมาณ 2 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 37% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจกองทุนรวมคาดว่าจะสามารถเพิ่มได้อีกประมาณ 1.5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.48 พันล้านบาท
“เราวางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจเป็น Boutique Asset Management ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกองทุนหุ้นไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนในการวางแผนการลงทุนในระยะยาว โดยอาศัยจุดแข็งที่มีผู้บริหารและทีมงานเป็นผู้มีประสบการณ์อยู่ในตลาดทุนมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ในธุรกิจการลงทุนนานกว่า 10 ปี โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่บลจ.ทาลิส เปิดธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล และธุรกิจกองทุนรวม ปรากฎว่าได้รับความไว้วางใจและตอบรับที่ดีจากนักลงทุน”นายฉัตรพี กล่าว
สำหรับ AUM ภายใต้การบริหารของบริษัท ณ สิ้นปี 2560 แบ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคล จำนวน 105 กองทุน มูลค่า 5.41 พันล้านบาท และกองทุนรวมมูลค่า 1.48 พันล้านบาท จำนวน 11 กองทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่ลงทุนในหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5.89 พันล้านบาท ที่เหลือประมาณ 1 พันกว่าล้านบาทเป็นการลงทุนในตราสารหนี้
นอกจากนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้าได้ดีกว่าเป้าหมาย ปัจจุบันบลจ.ทาลิสมีสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนรวม คิดเป็น 80%:20% ซึ่งกองทุนรวมถือว่าเป็นกองทุนรวมหุ้นไทยที่ครอบคลุมทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง-เล็ก หุ้นปันผล และหุ้นธรรมาภิบาล ซึ่งในอนาคตมีแผนเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากองทุนรวมมากขึ้น
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส กล่าวว่า ปัจจุบันบลจ.ทาลิส บริหารพอร์ตกองหุ้นไทยประมาณ 5.73 พันล้านบาท ทั้งในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล และกองทุนรวมหุ้นไทยที่ครอบคลุมทั้งหุ้นใหญ่ หุ้นกลาง-เล็ก หุ้นปันผล และหุ้นธรรมาภิบาล โดยหุ้นที่อยู่ในโมเดลพอร์ตการลงทุนจะครอบคลุมทุก Sector หลักและเป็นหุ้นที่มีธรรมาภิบาลที่ดี
ทั้งนี้ ในการคัดสรรหุ้นจะเลือกหุ้นของบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดี มีอัตราส่วน ROE / ROI สูง และมีแนวโน้มของการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะทำการตรวจสอบความเสี่ยง และติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ได้มีการตั้งเป้าการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวเฉลี่ยปีละ10%