NER กำไร 486 ล้านบาท โตแรง 117 % ปันผล 13 สตางค์

HoonSmart.com>> NER กำไร 486 ล้านบาท โตแรง 117 % อานิสงส์ กำไรขั้นต้นพุ่ง ยอดขายพุ่ง ราคาซื้อยางลดลง เตรียมปันผล 13 สตางค์ เปิดแผนปี 62 ตั้งเป้ารายได้โต 20%

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ ( NER ) แจ้งผลประกอบการปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 กำไรสุทธิ 486.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.47 บาท เพิ่มขึ้น 262.33 ล้านบาท หรือ 117 % จากช่วงเดียวกันปี 2560 ที่มีกำไร 224.12 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท

ทั้งนี้ปี 2561 บริษัท ฯ มีรายได้รวม 10,084 ล้านบาท โดยเป็นรายได้การขาย 10,056.20 ล้านบาท หรือ 99.72 % ของรายได้รวม

ปี 2561 มีกำไรขั้นต้น 1,039.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 351.39 ล้านบาท หรือ 51 % โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 11.56 % เพิ่มขึ้นจาก 5.17 % ของรายได้จากการขายปี 2560 เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของยอดขายที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับต้นทุนคงที่

ต้นทุนวัตถุดิบ พบว่า สัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบต่อรายได้จากการขายของบริษัท มีสัดส่วนลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากราคาซื้อวัตถุดิบเฉลี่ยลดลง ในสัดส่วนที่มากกว่าราคาขายเฉลี่ยของบริษัท ส่งผลให้กําไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ประกอบกับเมื่อพิจารณาอัตรากําไรขัั้นต้น แยกตามประเภทสินค้าพบว่า อัตรากําไรขั้นต้นของยางแท่งและยางผสมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 เนื่องจากต้นทุนขายที่ลดลง ประกอบกับสามารถผลิตและจําหน่ายยางผสมได้มากขึ้น จากการเปลี่ยนกระบวนการผลิตจาก Dry Process เป็น Wet Process

สําหรับปี 2561 บริษัทมีกําไรสุทธิ 486.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 262.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 117 % เกิดจากกําไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น จากการบริหารจัดการประสิทธิภาพในการผลิตได้ดีขึ้น และราคาซื้อวัตถุดิบยางลดลง ซึ่งเป็นไปตามราคาตลาดเมื่อเทียบกับช่วงปี 2560 โดยในปี 2561 บริษัทมีต้นทุนผลิตที่ลดลงในสัดส่วนที่มากกว่าราคาขายที่ลดลงซึ่งเป็นไปตามราคาตลาด

นอกจากนี้ สัดส่วนต้นทุนทางการเงินลดลง ในส่วนของดอกเบี้ยจ่ายเงินกู้ยืมประเภทตั๋วสัญญาใช้เงินและดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะยาว เนื่องจากบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนจากการระดมทุนมาใช้ในการบริหารจัดการสภาพคล่องมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่ดีของปี 2561 บริษัท ฯ พิจารณาจ่ายปันผลหุ้นละ 0.13 บาท คิดเป็นอัตราจ่ายเงินปันผล 43.33 % ของกำไรสุทธิ กำหนดจ่ายปันผล 16 พ.ค.2562

ทั้งนี้เงินปันผล 0.13 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.28 % ของราคาหุ้น ณ ปิดตลาดเช้าวันนี้ ที่ 2.46 บาท h

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ เปิดเผยว่า สำหรับแผนงานปี 2562 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 20% ภายใต้คาดการณ์ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ยางพาราแปรรูปเพิ่มขึ้นเป็น 2.6 แสนตัน จากปีนี้ 2.2 แสนตัน ตามความต้องการยางในตลาดโลกจะเติบโตตามปกติในแต่ละปีราว 2-5% โดยบริษัทเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเจรจากับลูกค้าจีน 3 รายที่คาดว่าจะมีคำสั่งซื้อรวมกันราว 1.5 หมื่นตัน/ปี และวางแผนขยายตลาดลูกค้าสิงคโปร์เพิ่ม โดยปัจจุบันบริษัทมีการทำสัญญาระยะยาว (Long Term Contact) กับลูกค้าไปแล้วกว่า 11 ราย จากที่มีอยู่ 8 ราย ทำให้บริษัทมีลูกค้าที่รอรับรู้รายได้ที่แน่นอนส่วนหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นขอให้ผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป 3 ราย เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบมาตรฐานการผลิตของโรงงานและผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นใบเบิกทางสำหรับการรุกเปิดตลาดส่งออกไปยังยุโรปเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผ่านมาบริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริดจสโตนทำให้บริษัทสามารถส่งออกสินค้าไปขายในจีนและภูมิภาคเอเชียได้ดี คาดว่าการตรวจสอบและขั้นตอนต่าง ๆ น่าจะใช้เวลาราว 1 ปี หรือรู้ผลในปี 63 ซึ่งทันเวลารองรับปริมาณผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 63

บริษัทจะมีกำลังการผลิตยางเพิ่มขึ้นอีก 60,000 ตัน/ปี เป็นยางแผ่นผสม (RSS Mixtures Rubber) จาก 232,000 ตัน/ปี ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดย ส่วนสิ้นปี2562 ก็จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมาอีก 172,800 ตันต่อปี หลังจากโรงงานใหม่ผลิตยางแท่ง (STR20) และยางผสม (Mixtures Rubber) แล้วเสร็จ เมื่อรวมทั้งสองส่วนจะส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตยางพาราแปรรูปเพิ่มขึ้นเป็น 465,600 ตันต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้ปี 2563 รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่บริษัทเน้นการสร้างเสถียรภาพของผลการดำเนินงานไม่ให้ผันผวนตามธรรมชาติของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ด้วยการซื้อสินค้าจริงมาทำมาผลิตเพื่อส่งมอบตามคำสั่งซื้อ ไม่มีนโยบายเก็งกำไรจากสต็อก พร้อมทั้งรักษาสมดุลของฐานลูกค้าเพื่อบริหารความเสี่ยง