บอร์ด “คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์” ไฟเขียวลงทุนโครงการโรงเรียนนานาชาติ ช่องนนทรีย์ กรุงเทพ มูลค่าไม่เกิน 3.74 พันล้านบาท ชี้ธุรกิจเติบโตสูง เฉลี่ย 8% ต่อปี หวังช่วยกระจายความเสี่ยงธุรกิจหลัก
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2562 อนุมัติให้บริษัทลงทุนในโครงการโรงเรียนนานาชาติ บนที่ดินขนาด 16 ไร่ 2 งาน 18.61 ตารางวา บริเวณถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ตำบลช่องนนทรีย์ อำเภอยานนาวา กรุงเทพมหานคร เงินลงทุนจำนวนไม่เกิน 3,742 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท) โดยมีแผนพัฒนาและก่อสร้างโครงการภายในเดือนส.ค.2562 คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 25 เดือน
บริษัทฯ จะจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตการจัดตั้งโรงเรียน ทั้งนี้ จะมีผู้ดำเนินการธุรกิจโรงเรียน (Scholl Operator) เป็นผู้บริหารงานกิจการโรงเรียน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและตกลงเงื่อนไขทางการค้ากับผู้ดำเนินการธุรกิจโรงเรียนและจะเข้าทำสัญญากับผู้ดำเนินการธุรกิจโรงเรียนดังกล่าว ภายหลังจากได้ข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทจะได้รับจากการลงทุนในกิจการโรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพ เป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง ความต้องการของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจโรงเรียนนานาชาติมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยสูงถึง 8% ต่อปี นอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มศักยภาพ สร้างความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงให้บริษัทสำหรับการทำธุรกิจในประเภทนี้ ทำให้บริษัทสามารถขยายการลงทุนในธุรกิจนี้ในอนาคต หากพิจารณาในอนาคตว่ามีโอกาสที่เหมาะสม
นอกจากนี้มองว่าการลงทุนในกิจการโรงเรียนนานาชาติเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในธุรกิจของบริษัทได้ ทำให้บริษัทไม่พึ่งพารายได้จากกลุ่มธุรกิจเดียว แต่ยังสามารถรับรู้รายได้จากอีกกลุ่มธุรกิจที่มีปัจจัยเสี่ยงแตกต่างกัน รวมทั้งมองว่าการลงทุนในกิจการโรงเรียนนานาชาติเป็นการลงทุนที่จะสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้แก่บริษัท
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้มาจากงบบประมาณลงทุนพัฒนาโครงการโรงเรียนนานาชาติ บริษัทคาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุน 2 ส่วน ประกอบด้วยกู้ยืมจากสถาบันการเงินและหรือเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท โดยคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาแล้วเห็นว่ารายการดังกล่าวสมเหตุสมผล สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้ต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติกำหนดวันออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและหรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 2 จำนวนไม่เกิน 40 ล้านหน่วย ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 โดยไม่คิดมูลค่านั้น เป็นวันที่ 25 ก.พ.2562 โดยใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุ 5 ปีและจะครบกำหนดในวันที่ 24 ก.พ.2567 รวมทั้งมีมติให้เปลี่ยนชื่อย่อใบสำคัญแสดงสิทธิจาก CGD-ESOP#2 เป็น CGD-WC เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การตั้งชื่อหลักทรัพย์ โดยรายละเอียดอื่นๆ ของใบสำคัญแสดงสิทธิยังเหมือนเดิมทุกประการ