“ไทยออยล์” ยันไม่มีการส่งน้ำมันไปกัมพูชา แจงรถค้างจุดช่องเม็ก 14 คันปลายทางลาว

HoonSmart.com>>”ไทยออยล์” (TOP) ยืนยันไม่มีการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไป “กัมพูชา” ตั้งแต่กลางปี 68 พร้อมแจงกรณีรถขนส่งน้ำมันที่ค้างด่านช่องเม็ก 14 คัน ส่งลูกค้าปลายทาง สปป.ลาว ตามกระบวนการค้าปกติ ก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงและยืนยันอย่างชัดเจนว่า กลุ่มไทยออยล์ไม่มีการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด

บริษัทฯ มีนโยบายงดการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่เกิดกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ประมาณกลางปี พ.ศ. 2568 และได้ถือปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพลังงาน และคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

ภายหลังจากกองทัพภาคที่ 2/ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568 บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้งดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ณ จุดผ่านแดนดังกล่าวทันที พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนการส่งออกน้ำมันให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐด้านความมั่นคงของชาติ รวมถึงความต้องการใช้พลังงานของประชาชนไทยเป็นหลัก

สำหรับกรณีรถขนส่งน้ำมันที่ค้างอยู่ ณ จุดผ่านแดนถาวร ช่องเม็ก จำนวน 14 คัน บริษัทฯ ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นน้ำมันที่ได้ส่งมอบให้แก่บริษัทลูกค้าแล้วตามกระบวนการค้าปกติ ก่อนที่คำสั่งมีผลบังคับใช้ โดยมีลูกค้าปลายทางเป็นบริษัทน้ำมันในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์และประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบกฎหมายและคำสั่งของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด

บริษัทฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทลูกค้าทุกราย เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า บริษัทฯ ไม่สนับสนุนการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชา และเน้นย้ำให้บริษัทลูกค้าทุกรายงดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศกัมพูชา ภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

บริษัทฯ ขอเรียนว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน การผลิต และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แต่อย่างใด และหากตรวจพบการกระทำใดที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมาย บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทฯ

 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–