HoonSmart.com>>นับถอยหลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี กองทุนลดหย่อนภาษี “บลจ.กรุงศรี” คัดกองทุน RMF ลงทุนเทรนด์โลก ได้ทั้งลดภาษี-โอกาสเติบโตยาวๆ ไปกับ “สินทรัพย์” ที่น่าลงทุนสอดรับแนวโน้มเศรษฐกิจ ทั้ง “หุ้นโลก-หุ้น ESG-ทองคำ-ตราสารหนี้” พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับกองทุน Thai ESG

เข้าสู่เทศกาล “กองทุนลดหย่อนภาษี” ส่งท้ายปีที่ไม่อยากให้มองแค่ภาษี เตรียมวางแผนลงทุน เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว นอกเหนือจากสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่ได้รับเป็นเด้งแรก
ในปี 2568 นี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี คัด “RMF” กองทุนตัวท็อป ลงทุนเทรนด์โลก จากสินทรัพย์ที่รับกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ทั้ง “ตราสารหนี้ หุ้น และทองคำ” ตอบโจทย์ผู้ลงทุนทั้งกลุ่มที่เน้นความมั่นคง ต้องการโอกาสผลตอบแทนสูง หรือมุ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้พอรต์ พร้อมฝ่าสถานการณ์ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก กับ 5 กองทุน RMF
KFGOLDRMF
กองทุนกรุงศรีโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ : ระดับความเสี่ยง 8 (เสี่ยงสูงมาก)
จุดเด่นกองทุน
– ลงทุน “ทองคำ” ผ่านการลงทุนในกองทุนหลัก SPDR Gold Trust เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV
– กองทุนหลักเป็น ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ลงทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค ฮ่องกง โตเกียว และสิงคโปร์ โดยกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ
ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง: ที่ผ่านมา ผลตอบแทนของกองทุนใกล้เคียงกับการลงทุนในทองคำแท่ง

ที่มา: SPDR Gold Shares ณ 31 ส.ค. 68 | ผลการดำเนินงานคำนวณจากผลตอบแทนสุทธิหลังหักค่าธรรมเนียม (NAV ต่อ NAV) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของ AIMC
(นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
ปัจจัยสนับสนุน
– “ทองคำ” สินทรัพย์ที่ยิ่งเพิ่มค่า เมื่อใครๆ ก็อยากหลบภัยความเสี่ยง
– บลจ.กรุงศรี คาดการณ์ราคาทองคำมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ จากแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
– แนวโน้มการเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาทองคำในระยะกลาง-ยาว
KF-WORLD-INDXRMF
กองทุนกรุงศรีเวิลด์อิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ : ระดับความเสี่ยง 6 (เสี่ยงสูง)
จุดเด่นกองทุน
– เข้าถึงการลงทุน “หุ้นทั่วโลก”ที่มีโอกาสเติบโต และได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยขาลง ด้วยพอร์ตที่กระจายการลงทุนทั้งในตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่
– กองทุนหลัก: iShares MSCI ACWI ETF อ้างอิงกับดัชนี MSCI ACWI Index ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดโดยมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ กระจายน้ำหนักในหุ้นมากกว่า 2,000 บริษัท หลากหลายภูมิภาคทั่วโลกและหลากหลายอุตสาหกรรม จึงไม่ผันผวนไปตามอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป
– กองทุนหลักมีค่าใช้จ่ายในระดับต่ำเพียง 0.32% เอื้อต่อศักยภาพในการสะท้อนความเคลื่อนไหวของดัชนีและการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว (ที่มา: Fact Sheet ของกองทุนหลัก ณ 30 มิ.ย. 68 ข้อมูลมีการปรับปรุงข้อมูลเป็นรายไตรมาส)
– กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่เติบโตไปพร้อมกับตลาด

ที่มา: iShares ณ 30 ก.ย. 68 | วันจัดตั้งกองทุน คือ 26 มี.ค. 51 | ดัชนี คือ MSCI ACWI Index | ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักอ้างอิงจากราคา NAV รวมผลตอบแทนจากเงินปันผล | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
(นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
KF-GDIVRMF
กองทุนกรุงศรีโกลบอลดิวิเดนด์เพื่อการเลี้ยงชีพ : ระดับความเสี่ยง 6 (เสี่ยงสูง)
จุดเด่นกองทุน
– รวม “หุ้นปันผล” คัดคุณภาพจากทั่วโลก ตอบโจทย์ผู้ที่มองหากลยุทธ์ที่เน้นรักษาเงินลงทุนพร้อมโอกาสของผลตอบแทนที่ดี
– กองทุนหลัก : Fidelity Funds – Global Dividend Fund
– พอร์ตการลงทุนผสานการลงทุนเชิงรุกและรับ คัดสรรหุ้นบริษัทที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่องและในระดับเพิ่มขึ้น และกำไรสุทธิมีความผันผวนต่ำ ช่วยปกป้องเงินลงทุนในภาวะตลาดขาลงพร้อมกับโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมที่ดี
– กระจายลงทุนในหุ้น Cyclicals คุณภาพดี (ราว 30%) ขยายโอกาสการลงทุน
– หลีกเลี่ยง Value Trap (กับดักมูลค่าหุ้น) ที่ทำให้ได้หุ้นราคาถูกแต่ราคาไม่ปรับเพิ่มขึ้น
– เลือกหุ้นที่ปันผลไม่สูงในปัจจุบัน แต่มีศักยภาพเติบโตและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
– พอร์ตโดยรวมต้องมี Dividend Yield (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล) สูงกว่าตลาดโลกอย่างน้อย 25% เน้นให้น้ำหนักในธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นบนระดับราคาที่น่าสนใจ

ที่มา: Fidelity International, Morningstar Direct ณ 31 ก.ค. 68 | ข้อมูลที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของของ Share class Y-QINCOME(G)-USD ซึ่งกองทุน KF-GDIVRMF ลงทุน โดยจัดตั้งขึ้นเมื่อ 20 ก.พ. 60 | *ข้อมูล Quartile rank ที่แสดงอ้างอิงจากผลตอบแทนของ share class หลักที่จัดโดย Morningstar ซึ่งอาจต่างจากผลตอบแทนที่แสดงในเอกสารนี้ ทั้งนี้ อันดับที่ 1 จะหมายถึง อยู่ใน 25% แรกของกลุ่มกองทุนที่มีผลตอบแทนดีที่สุด | การคำนวณ Quartile rank นี้เป็นการคำนวณภายในของ Fidelity International และอันดับอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละ share class | Peer Group อ้างอิงจาก Morningstar EAA Fund Global Equity Income | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของ AIMC | การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของ AIMC แต่อย่างใด
(นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวน)
KF-SINCOME-FXRMF
กองทุนกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ : ระดับความเสี่ยง 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง)
จุดเด่นกองทุน
– คำตอบของการลงทุน “ตราสารหนี้” เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อดอกเบี้ยขาลงเป็นปัจจัยหนุนโอกาสเพิ่มผลตอบแทน
– กองทุนหลัก: PIMCO GIS Income Fund กองทุนหลัก 5 ดาวจาก Morningstar* บริหารโดย PIMCO บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนระดับโลกที่มีความชำนาญและประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในการบริการกองทุนตราสารหนี้ (*ที่มา: PIMCO ณ 31 ส.ค. 68 | การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของ AIMC แต่อย่างใด)
– กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังเหนือตลาดอย่างต่อเนื่อง จากการปรับพอร์ตอย่างยืดหยุ่นในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

ที่มา: PIMCO ณ 30 มิ.ย. 68 | ดัชนีอ้างอิง คือ ดัชนี Bloomberg U.S. Aggregate Index | วันจัดตั้งกองทุนคือ 30 พ.ย. 2555 | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานหลังหักค่าธรรมเนียมการจัดการ และคิดเป็นรูปสกุลเงิน USD | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของ AIMC
(นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน)
KFAFIXRMF
กองทุนกรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้-เพื่อการเลี้ยงชีพ : ระดับความเสี่ยง 4 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
จุดเด่นกองทุน
– ลงทุนเชิงรุกใน “ตราสารหนี้” ระยะกลาง ปรับพอร์ตรวดเร็ว เพื่อเก็บทุกโอกาสของผลตอบแทน
– ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน และตราสารต่างประเทศ โดยเน้นตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี ด้วยการบริหารพอร์ตแบบ Active มีความยืดหยุ่นในการสัดส่วนการลงทุนรับสถานการณ์
– โอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่น่าสนใจ เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต หลังภาพรวมอัตราดอกเบี้ยนโยบายเกือบทุกประเทศทั่วโลกได้เข้าสู่วัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงแล้ว นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และเป็นแรงสนับสนุนต่อแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่

ที่มา: บลจ. กรุงศรี ณ 30 มิ.ย. 68 | ข้อมูล Quartile rank จาก Morningstar ในกลุ่ม Mid-term general bond | การจัดอันดับของ Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการกองทุนแต่อย่างใด | กองทุน KFAFIX-A จัดตั้งเมื่อ 21 ต.ค. 59 | ดัชนีชี้วัด คือ 1. ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีพันธบัตรรัฐบาลอายุ น้อยกว่าเท่ากับ 10 ปี ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สัดส่วน (%): 50.00 2. ผลตอบแทนรวมสุทธิของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชน Mark-to-market ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในระดับ BBB+ ขึ้นไป อายุ 1-3 ปี ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย สัดส่วน (%): 30.00 3. อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษี สัดส่วน (%):10.00 4.ดัชนีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR หลังหักภาษี สัดส่วน (%): 10.00 | เริ่มใช้ดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงานใหม่หลังหักภาษี (Net TRN Index) มีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 62 | Peer Group คือ ค่าเฉลี่ยในกลุ่มเดียวกันตามกลุ่ม Mid Term General Bond | ผลการดำเนินงานนี้ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของ AIMC
– เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น และสามารถรับความผันผวนได้ปานกลาง
(นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน : ป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวน)
นอกเหนือจากการลงทุน “RMF” แล้ว เพื่อเพิ่มโอกาสลดหย่อนภาษีและรับผลตอบแทนยั่งยืนกับตราสาร ESG ระยะเวลาลงทุนเพียง 5 ปี กับ 2 กองทุน “Thai ESG”
KFTHAIESG
กองทุนกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน : ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)
จุดเด่นกองทุน
– โอกาสเติบโตไปกับ หุ้น ESG พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี
– ลงทุน “หุ้นไทย” ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อ้างอิงตามดัชนี SETESG ซึ่งเป็นหุ้นยั่งยืน
– กระจายสัดส่วนสำหรับการลงทุนเชิงรุก โดยประมาณ 90% ของพอร์ตการลงทุน จะเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SETESG โดยใช้ Quant Strategy เพื่อสะท้อนการลงทุนให้มีผลตอบแทนเปรียบเสมือนการลงทุนทั้ง 100% ในดัชนี SETESG นอกจากนี้ กองทุนยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนเชิงรุกตามแนวทางการลงทุนของ บลจ.กรุงศรี ในสัดส่วน 10% ของพอร์ต (ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ ต.ค. 68)
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงในระยะยาว และรับความผันผวนของตลาดหุ้นได้ดี
ทั้งนี้ KFTHAIESG มีให้เลือก 2 ชนิดหน่วยลงทุน คือ KFTHAIESGA (ชนิดสะสมมูลค่า – ไม่มีการจ่ายปันผล) และ KFTHAIESGD (ชนิดจ่ายปันผล)
KFGBTHAIESG
กองทุนกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน : ความเสี่ยงระดับ 3 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ)
จุดเด่นกองทุน
– โอกาสเติบโตมั่นคงกับพันธบัตรไทย ESG
– กระจายความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดหุ้น และคว้าประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบัน
– กองทุนที่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ทั้งในกลุ่มกองทุน Thai ESG และกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว จากการจัดอันดับของ Morningstar* ด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่โดดเด่น
(*ที่มา Morningstar และ บลจ.กรุงศรี ณ 30 ก.ย. 68 | การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของ AIMC แต่อย่างใด | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)
– เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่รับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการลดความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน
ปัจจัยสนับสนุน
– ตลาดตราสารหนี้ของไทยมีโอกาสได้รับแรงหนุนมาจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงทั้งในและต่างประเทศ
– บลจ.กรุงศรีคาดว่า ธปท.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2-3 ครั้ง สู่ระดับ 0.75 – 1.00% ภายในปี 2569 (ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ ต.ค. 68)
ทั้งนี้ กองทุน Thai ESG สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท เงื่อนไขต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแบบวันชนวัน
ส่วนกองทุน RMF รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท (เมื่อรวมกับเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และประกันชีวิตแบบบำนาญ)โดยมีเงื่อนไขสำคัญ “ต้องซื้อต่อเนื่อง และถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี” นับจากวันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
ผู้ที่ลงทุน RMF- Thai ESG รับโปรโมชันพิเศษ หน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาท ต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท ในกองทุนที่ร่วมรายการ (ตามเงื่อนไข)
สอบถามข้อมูลกองทุนเพิ่มเติม/ ขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 02-657-5757 กด 2
ซื้อกองทุนได้ง่ายๆ ที่แอป @ccess Mobile ของ บลจ.กรุงศรี คลิก https://bit.ly/KSAMapp หรือ krungsri app
